ชาติอาหรับวิ่งวุ่นล็อบบี้สหรัฐ วอนยับยั้งอิสราเอลถล่ม 'น้ำมันอิหร่าน'
แหล่งข่าววงใน เผยกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับวิ่งวุ่นล็อบบี้สหรัฐ ขอให้ยับยั้ง 'อิสราเอล' ไม่ให้โจมตีคลังน้ำมันใน 'อิหร่าน' หลังเตหะรานเดินสายพบมกุฎราชกุมารซาอุดีฯ เตือน 'ถ้าอิหร่านโดนถล่ม คลังน้ำมันของอาหรับก็ไม่รอด'
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างแหล่งข่าววงใน ที่เกี่ยวข้องว่า กลุ่มประเทศอ่าวเปอร์เซีย (อ่าวอาหรับ) กำลังล็อบบี้รัฐบาลสหรัฐให้ช่วยหยุดยั้งไม่ให้อิสราเอลโจมตีคลังน้ำมันในประเทศอิหร่าน เนื่องจากกังวลว่าหากความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น อาจทำให้คลังน้ำมันในประเทศตนเองถูกโจมตีจากบรรดาพันธมิตรของอิหร่าน
แหล่งข่าว 3 รายในประเทศอ่าวอาหรับเปิดเผยว่า หนึ่งในความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี ยังทำให้ประเทศต่างๆ ในอ่าวอาหรับ เช่น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ ปฏิเสธที่จะให้อิสราเอลบินผ่านน่านฟ้าของตนเพื่อโจมตีอิหร่าน และได้แจ้งเรื่องนี้ให้สหรัฐทราบแล้ว
ทั้งนี้ อิสราเอลประกาศจะตอบโต้กลับอิหร่านจากกรณีที่ถูกยิงขีปนาวุธถล่มกว่า 180 ลูกเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่อิหร่านก็เตือนอย่างแข็งกร้าวเช่นกันว่า จะเอาคืนกลับอย่างหนัก และทรงพลังกว่าเดิมหากอิสราเอลตอบโต้กลับมา ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดไปทั่วภูมิภาค และทำให้ทุกฝ่ายจับจ้องไปที่ "สหรัฐ" ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของอิสราเอล
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับในครั้งนี้ยังมีขึ้นหลังจากที่อิหร่าน ซึ่งเป็นชาติมุสลิมชีอะห์ พยายามผลักดันให้กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศมุสลิมซุนนี ใช้อิทธิพลของตนเองในการล็อบบี้สหรัฐให้ขวางอิสราเอล เนื่องจากเริ่มมีกระแสความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า การตอบโต้กลับของอิสราเอลอาจมุ่งเป้าไปที่บรรดาโรงงานผลิตน้ำมันของอิหร่านโดยตรง
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูง และแหล่งข่าวทางการทูตอิหร่านเปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า อิหร่านได้เตือนไปยังซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์นี้ว่า ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของแหล่งน้ำมันในซาอุดีฯ ได้ หากอิสราเอลได้รับไฟเขียวให้ลงมือโจมตีอิหร่านได้
"ฝ่ายอิหร่านย้ำมาว่า ถ้ากลุ่มประเทศอ่าวอาหรับยอมเปิดน่านฟ้าให้เครื่องบินของอิสราเอลเข้ามาโจมตีอิหร่าน นี่จะเป็นสงครามอย่างแท้จริง" อาลี ชิฮาบี นักวิเคราะห์ซึ่งมีความใกล้ชิดกับราชสำนักซาอุดีฯ กล่าว
ฝั่งรัฐบาลเตหะรานยังย้ำไปถึงรัฐบาลริยาดด้วยว่า "บรรดาพันธมิตรของตนเอง" ในหลายประเทศ อาทิ อิรักและเยเมน อาจตอบโต้กลับหากกลุ่มประเทศอาหรับสนับสนุนให้อิสราเอลโจมตีอิหร่าน
แหล่งข่าวจากอิหร่านและฝั่งอาหรับเปิดเผยกับรอยเตอร์สว่า ความกังวลเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นหลักที่สำคัญที่สุดในการพบหารือกันระหว่างเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย กับอับบาส อารัคชี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเดินหน้าล็อบบี้ในกลุ่มประเทศอาหรับ
ขณะที่การเยือนของรัฐมนตรีอิหร่าน ร่วมกับ "การสื่อสารระหว่างซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐในระดับกระทรวงกลาโหม" เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามร่วมกันเพื่อแก้ไขวิกฤติดังกล่าว
ด้านแหล่งข่าวในกรุงวอชิงตันที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลจากประเทศอาหรับได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ เพื่อแสดงความกังวลเกี่ยวกับขอบเขตการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้นจากอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเมื่อถูกถามว่า หลายประเทศในอ่าวอาหรับได้ขอให้วอชิงตันรับรองการจำกัดวงโจมตีของอิหร่านจริงหรือไม่ ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เกี่ยวกับการตอบโต้ของอิสราเอล ซึ่งทั้งสองฝ่ายระบุว่าเป็นไปในเชิงบวก
โจนาธาน ปานิคอฟ อดีตรองผู้อำนวยการฝ่ายตะวันออกกลางของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันทำงานที่สถาบันวิจัยแอตแลนติกเคานซิลในวอชิงตันกล่าวว่า "ความวิตกกังวลของประเทศต่างๆ ในอ่าวเปอร์เซีย มีแนวโน้มที่จะเป็นประเด็นสำคัญในการพูดคุยกับอิสราเอล เพื่อพยายามโน้มน้าวให้อิสราเอลตอบโต้อิหร่านอย่างระมัดระวัง"
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันโลก ปรับตัวพุ่งขึ้นถึงเกือบ 4% เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ต.ค.67) หลังมีรายงานว่าการใช้เชื้อเพลิงในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก่อนที่พายุเฮอริเคนมิลตัน จะเคลื่อนตัวผ่านรัฐฟลอริดา และราคายังได้แรงหนุนจากความเสี่ยงในตะวันออกกลาง และสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอุปสงค์พลังงานจะเพิ่มขึ้นในจีน และสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.61 ดอลลาร์ หรือ 3.56% ปิดที่ 75.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ในขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.82 ดอลลาร์ หรือ 3.68% ปิดที่ 79.4 ดอลลาร์/บาร์เรล
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์