ยังไร้เม็ดเงิน! รมว.คลังจีนแถลงกระตุ้นศก. ย้ำออกบอนด์เพิ่ม-ขยายขาดดุลงบฯ

ยังไร้เม็ดเงิน! รมว.คลังจีนแถลงกระตุ้นศก. ย้ำออกบอนด์เพิ่ม-ขยายขาดดุลงบฯ

จีนแถลงกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ ส่งสัญญาณขยายเพดานการขาดดุลงบประมาณ-ออกพันธบัตรเพิ่มล็อตใหญ่ แต่ยังไร้ตัวเลขที่ชัดเจน นักวิเคราะห์ชี้อาจต้องรอประชุมสภาปลายเดือนต.ค. ก่อน

หลัน ฝออัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของจีน แถลงต่อผู้สื่อข่าวเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันเสาร์นี้ตามเวลาท้องถิ่นโดยระบุว่า รัฐบาลจีนยังมีช่องทางที่จะเพิ่มการก่อหนี้และขยายเพดานการขาดดุลงบประมาณได้อีก และจะเพิ่มการออกพันธบัตรรัฐบาล "จำนวนมาก" ในความพยายามกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน "แต่ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขวงเงินที่แน่ชัดออกมา"

หลันกล่าวว่านโยบายดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา โดยนโยบาย 4 เรื่องที่เข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาไปแล้ว ได้แก่ ธนาคารขนาดใหญ่ของรัฐ, การจ้างงานเยาวชนคนรุ่นใหม่, การสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อจัดการกับความเสี่ยงด้านหนี้ และรักษาเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์

ซีเอ็นบีซีรายงานว่าบรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า จีนต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นทางการคลัง (fiscal stimulus) เพิ่มเติมเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำหนดเอาไว้ที่ประมาณ 5% ได้ แต่จนถึงขณะนี้ รัฐบาลปักกิ่งก็ยังไม่ได้ประกาศใดๆ ที่ชัดเจนออกมา

สำหรับรายละเอียดด้าน "อสังหาริมทรัพย์" เหลียว หมิน รัฐมนตรีช่วยคลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังจะอนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถออกพันธบัตรพิเศษสำหรับการซื้อที่ดิน และอนุญาตให้มีการอุดหนุนทำโครงการที่อยู่อาศัยราคาถูกโดยซื้อโครงการอสังหาฯ คงค้างที่ขายไม่ได้มาทำแทนที่การก่อสร้างใหม่  

นอกจากนี้ ทางการจีนกำลังพิจารณาแผนลดหย่อนภาษีที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ แม้จะไม่ได้ระบุตัวเลขที่ชัดเจน แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่าการสนับสนุนอสังหาริมทรัพย์ต้องมีนโยบายเกี่ยวเนื่องหลายด้านออกมา

ซีเอ็นบีซีระบุว่าก่อนหน้านี้ในการประชุมคณะกรรมการกรมการเมือง (โปลิตบูโร) เมื่อปลายเดือนก.ย. ซึ่งมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน เจ้าหน้าที่หลายคนได้เรียกร้องให้มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางการเงินและการคลังออกมา แต่ยังไม่มีการวางรายละเอียดที่ชัดเจนในเรื่องนี้

ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์ว่า จีนจำเป็นต้องอัดฉีดกระตุ้นทางการคลังล็อตใหญ่เพื่อให้เห็นผล โดยคาดว่าวงเงินกระตุ้นควรจะอยู่ที่ระหว่าง 2 ล้านล้านหยวนขึ้นไปเป็นอย่างน้อย ไปจนถึงกว่า 10 ล้านล้านหยวน

ติง ลู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของโนมูระ ระบุในบันทึกถึงนักลงทุนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการแถลงข่าววันนี้ (12 ต.ค.) โดยปกติแล้วจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาของจีนก่อน ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมในช่วงปลายเดือนต.ค. นี้

ลู่กล่าวเสริมว่า "วิธีการใช้เงิน" สำคัญพอๆ กับจำนวนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่จัดสรรไป ไม่ว่าจะนำไปใช้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่กำลังประสบปัญหา หรือเน้นไปที่การกระตุ้นการบริโภคก็ตาม