'อิสราเอล' ปฏิเสธ รถถังโจมตีฐานทัพ UN ในเลบานอน ชี้ 'แค่ขนทหารบาดเจ็บ'
สหประชาติ เผย รถถังอิสราเอลโจมตีฐานทัพของตนทางตอนใต้ของเลบานอนเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธรายงานดังกล่าว และนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรียกร้องให้กองกำลังรักษาสันติภาพถอนทัพออกไปจากพื้นที่สู้รบได้แล้ว
กองกำลังรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติในเลบานอน (United Nations Interim Force in Lebanon: UNIFIL) รายงานว่า รถถังเมอร์คาวาของอิสราเอล 2 คัน ทำลายประตูหลักของฐานทัพ และบุกเข้าไปในพื้นที่ก่อนรุ่งสางในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) และหลังจากที่รถถังออกไปแล้ว ก็เกิดระเบิดห่างจากฐานทัพ 100 เมตร ทำให้เกิดควันขโมงกระจายทั่วฐานทัพ และทำให้เจ้าหน้าที่ของ สหประชาชาติ (UN) ได้รับบาดเจ็บ
ฝ่ายกองทัพอิสราเอลรายงานว่า ฮิซบอลเลาะห์ ยิงขีปนาวุธต่อต้านรถถังใส่กองทัพของตน ทำให้ทหารบาดเจ็บ 25 นาย ซึ่งการโจมตีดังกล่าวอยู่ใกล้กลับฐานทัพของ UNIFIL และรถถังที่กำลังข่วยอพยพผู้บาดเจ็บจากการถูกยิงนั้น ได้ถอยเข้าไปยังฐานทัพ UNIFIL
รายงานระบุว่า กองทัพอิสราเอล ใช้ม่านควันพลางตาเพื่ออพยพทหารที่ได้บาดเจ็บ และปฏิบัติการดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อกองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็น
ด้าน เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุเพิ่มเติมในแถลงการณ์ถึงอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นว่า
“ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องถอนกองกำลัง UNIFIL ออกจากฐานที่มั่นฮิซบอลเลาะห์ และออกจากพื้นที่สู้รบ”
“กองกำลังป้องกันอิสราเอลร้องขอเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง และได้รับการปฏิเสธอยู่หลายรอบ ทำให้กลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์มีโล่มนุษย์” เนทันยาฮู ระบุ
ขณะที่ฝ่ายฮิซบอลเลาะห์ปฏิเสธใช้ความใกล้ชิดกับกองกำลังรักษาสันติภาพปกป้องกลุ่มของตน
สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกยูเอ็นแถลงย้ำคำเตือนของเลขาธิการยูเอ็นวานนี้ว่า กองกำลังรักษาสันติภาพจะต้องไม่ตกเป็นเป้า และว่า การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
ด้านลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ สนทนาทางโทรศัพท์กับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ โดยย้ำถึงความสำคัญที่อิสราเอลต้องใช้มาตรการจำเป็นทั้งหมดเพื่อรับประกันความปลอดภัยและความมั่นคงของกองกำลัง UNIFIL และกองกำลังติดอาวุธของเลบานอน
นอกจากนี้ ออสตินยังได้กดดันกัลแลนต์ถึงความจำเป็นที่อิสราเอลต้องเปลี่ยนปฏิบัติการทางทหารในเลบานอน เป็นการดำเนินการทางการทูตเพื่อความปลอดภัยของพลเรือนตามแนวชายแดนของทั้งสองฝ่ายให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
อ้างอิง: Reuters