นโยบาย 'ทรัมป์-แฮร์ริส' ต่างกันไหม? มองผ่านเลนส์นักคณิตศาสตร์ (ตอน 1)
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริสจากพรรคเดโมแครต กำลังหาเสียงสู้กันอย่างดุเดือดเพราะเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนแล้ว
การเลือกตั้งครั้งนี้สูสีกันมากเช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งก่อน จึงคาดเดาได้ยากมากว่าสุดท้ายแล้วใครจะชนะแม้ปัจจุบันโพลจะให้แฮร์ริสนำทรัมป์อยู่เล็กน้อย ไม่เพียงเท่านั้นการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่งของพรรครีพับลิกันและเดโมแครตก็มีความก้ำกึ่งกันมาก
- แบบจำลองคนขายไอศกรีม 2 คน
ปรากฏการณ์นี้แสดงถึงการมีกฎอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เรื่องนี้นักคณิตศาสตร์มีคำตอบโดยใช้ทฤษฎีพลวัต Dynamical Systems เป็นตัวอธิบาย ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆที่คนทั่วไปก็เข้าใจได้
สมมติว่ามีหาดทรายแห่งหนึ่งยาวประมาณ 1 ไมล์จากท่าเรือ ที่ชายหาดมีพ่อค้าไอศกรีม 2 คน ช่วงแรกๆคนหนึ่งอาจจะตั้งร้านค่อนมาทางท่าเรือ อีกคนอาจจะตั้งร้านค่อนไปทางปลายสุดของหาด ทั้งนี้ก็เพื่อแบ่งเขตลูกค้ากันคร่าวๆ
แต่ในระยะยาวพวกเขาจะเปลี่ยนจุดตั้งขายไอศกรีม เนื่องจากแรงขับดันหรือ Dynamics ของระบบเศรษฐกิจตลาดคือ ผู้บริโภคมักจะขี้เกียจและต้องการความสะดวกสะบาย ส่วนผู้ประกอบการมักจะโลภมาก ในกรณีนี้ พ่อค้าไอศกรีมแต่ละคนมักจะคิดวางแผนอยู่ตลอดเวลาว่าจะหาลูกค้าเพิ่มด้วยการแย่งลูกค้าของคู่แข่งได้อย่างไร สิ่งที่เขาจะทำคือ การค่อยขยับที่ขายของเข้าไปในด้านของคู่แข่งมากขึ้น ซึ่งในที่สุดแล้วทั้งสองจะมาตั้งขายไอศกรีมตรงระหว่างกลางหาดด้วยกัน
นักคณิตศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญสาขาอื่นๆเชื่อว่าระบบ Dynamics นี้สามารถใช้อธิบายวิวัฒนาการของระบบพรรคการเมืองที่มีสองพรรคใหญ่ที่แข่งขันช่วงชิงอำนาจกัน อย่างในอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ได้
ในสหรัฐ พรรครีพับลิกันถูกจัดให้อยู่ฝ่ายขวาหรืออนุรักษนิยม ส่วนพรรคเดโมแครตเป็นพรรคฝ่ายซ้ายหรือเสรีนิยมที่ผ่านมาทั้งสองพรรคพยายามขยายฐานเสียงที่มีอยู่ จึงทำให้ต้องพยายามปรับนโยบายของพรรคให้ใกล้เคียงกับพรรคคู่แข่งมากยิ่งขึ้น จนในที่สุดนโยบายของทั้งคู่แทบจะไม่แตกต่างกันเลย
- มีหลักฐานอะไรสนับสนุนข้อสรุปนี้
1. ความคล้ายกันของนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ตัวอย่างในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจต่างประเทศ โดยเมื่อครั้งทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในช่วงปี 2018-2019 โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบันก็ไม่กล้ายกเลิกภาษีเหล่านั้นโดยยังคงไว้เกือบทั้งหมด แถมรัฐบาลไบเดนยังใช้มาตรการกีดกันสินค้าจีนเพิ่มอีก เช่นเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ไบเดนประกาศขึ้นภาษีรถอีวีจีนเป็น 100% รวมทั้งขึ้นภาษีสินค้าแบตเตอร์รีลิเธียม เซมิคอนดักเตอร์ แผงโซล่า และอื่นๆ
รัฐบาลไบเดนยังใช้มาตรการกีดกันจีนไม่ให้เข้าถึงชิปไฮเทค ในการรณรงค์หาเสียงรอบนี้ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ 10-20 % และจะขึ้นภาษีสินค้าจีนประมาณ 60 % หรือสูงกว่านั้น ด้านแฮร์ริสก็ตอกย้ำการสนับสนุนการขึ้นภาษีรถไฟฟ้าจีนและแผงโซล่าจากจีนของรัฐบาลไบเดน เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ รวมทั้งกีดกันจีนไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการผลิตชิปรุ่นใหม่ที่เป็นส่วนสำคัญของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intellegence:AI)
สิ่งที่สื่อสารออกจากสองพรรคการเมืองใหญ่จึงอนุมานได้ว่า ทั้งตัวผู้นำพรรคเอง ส.ส. และส.ว. ของทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างเห็นด้วยกันว่า จีนเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของสหรัฐ และจำต้องรีบบอนไซจีนทางเศรษฐกิจและปิดล้อมจีนทางการทหาร เพราะพวกเขากลัวว่า จีนจะผันความร่ำรวยทางเศรษฐกิจไปสร้างกองทัพให้เกรียงไกรเพื่อทาบรัศมีกับกองทัพสหรัฐ หรือสร้างให้เหนือกว่า
2. นโยบายการเมืองระหว่างประเทศ
สงครามตะวันออกกลาง รัฐบาลไบเดนยังคงสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ แม้พันธมิตรบางประเทศ เช่น ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศลจะออกมาเรียกร้องให้หยุดส่งอาวุธให้กับรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล หลังอิสราเอลยังคงทิ้งระเบิดส่งทหารบุกฉนวนกาซาไม่หยุดจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 42,000 คน หลังรบกับกลุ่มฮามาสมาแล้ว 1 ปี นับแต่กองกำลังติดอาวุฮามาสบุกสังหารหมู่ชาวอิสราเอลเมื่อ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ช่วงนี้อิสราเอลยังได้หันมาทิ้งระเบิดใส่กรุงเบรุตและส่งทหารบุกภาคพื้นดินเข้าไปในตอนใต้ของเลบานอน ส่งผลให้คนเสียชีวิตมากกว่า 2,000 คนนับแต่ตุลาคมปีที่แล้ว และตัวเลขยังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนแผนในการโจมตีตอบโต้อิหร่าน แม้ไบเดนจะให้ข่าวในเชิงว่า อิสราเอลไม่ควรโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของอิหร่าน และฐานวิจัยนิวเคลียร์ แต่สำนักข่าว CNN เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐยังไม่ตัดเป้าหมายฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านทิ้ง
ส่วนทรัมป์บอกว่า อิสราเอลควรโจมตีโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ไบเดนยังคงทหารสหรัฐไว้ในอิรัก ซีเรีย จอร์แดน และเรือรบในทะเลแดง และคอยช่วยยิงสกัดขีปนานวุธที่อิหร่านยิงใส่อิสราเอลรอบแรกในเดือนเมษายน และรอบสองต้นเดือนตุลาคม จึงสรุปได้ว่า นโยบายด้านต่างปรเทศของสองพรรคการเมืองสหรัฐต่อส่งครามในตะวันออกกลางแทบจะไม่ต่างกันเลย
“ทรัมป์สนับสนุนเนทันยาฮู 100 % ส่วนไบเดน-แฮร์ริส หนุน 70 %” นายฟิล โรเบิร์ตสัน สมาชิกพรรคเดโมแครตที่พำนักอยู่ในประเทศไทย กล่าว