WHO เตรียมอพยพ ‘ผู้หญิงและเด็ก’ ในกาซา 1,000 คน รับการรักษาเร่งด่วนในยุโรป

WHO เตรียมอพยพ ‘ผู้หญิงและเด็ก’ ในกาซา 1,000 คน รับการรักษาเร่งด่วนในยุโรป

"องค์การอนามัยโลก" (WHO) เตรียมอพยพ "ผู้ป่วยหญิงและเด็ก" ในกาซาไปรักษาในยุโรปภายในเดือนหน้า หลังยูเอ็นออกมาบอกว่า อิสราเอลจงใจโจมตีสถานพยาบาลในฉนวนกาซา และกล่าวหาว่า อิสราเอลก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติเมื่อสัปดาห์ก่อน

แฮนส์ คลูจ หัวหน้าฝ่ายยุโรป องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า ผู้หญิงและเด็กที่จำเป็นต้องได้รับการรักษามากถึง 1,000 คน เตรียมได้รับการอพยพออกจากกาซาไปยังยุโรป และให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า อิสราเอลมีความมุ่งมั่นที่จะทำการอพยพผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาราว 1,000 คน ไปยังสหภาพยุโรป (อียู) ภายในเดือนหน้า (เดือนพ.ย.)

คลูจกล่าวว่า ดับเบิลยูเอชโอ จะเป็นหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกในการอพยพผู้ป่วย โดยได้รับความร่วมมือจากประเทศในยุโรป

เมื่อวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) เจ้าหน้าที่สอบสวนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยว่า อิสราเอลจงใจโจมตีสถานพยาบาลในฉนวนกาซา สังหารและทรมานบุคลากรการแพทย์ และกล่าวหาว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

ริก พีเปอร์กอร์น ผู้แทนองค์การอนามัยโลกในกาซาและเวสต์แบงก์ รายงานเมื่อเดือน พ.ค. ว่า มีประชาชนราว 10,000 คน ที่จำเป็นต้องอพยพออกจากกาซาเพื่อรับการรักษาทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ที่ผ่านมาดับเบิลยูเอชโอในยุโรปได้อพยพผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาเร่งด่วนราว 600 ออกจากกาซาไปยังประเทศในยุโรป 7 แห่ง นับตั้งแต่สงครามในกาซาเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน ต.ค. 2566

“สิ่งนี้อาจไม่เกิดขึ้นถ้าเราไม่เปิดให้มีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง” คลูจกล่าว “เช่นเดียวกับยูเครน ผมเปิดให้มีการเจรจากับพันธมิตรทุกฝ่าย”

คลูจเสริมอีกว่า ยาที่สำคัญที่สุดคือ ความสันติ และย้ำว่าบุคลากรการแพทย์ต้องได้รับอนุญาตให้ทำงานในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง

 

อ้างอิง: AFP