'เจฟฟ์ เบซอส' แจงเหตุผล วอชิงตันโพสต์เลิกรับรองผู้สมัครประธานาธิบดี

'เจฟฟ์ เบซอส' แจงเหตุผล วอชิงตันโพสต์เลิกรับรองผู้สมัครประธานาธิบดี

เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ชี้แจงเหตุผลการตัดสินใจอันลือลั่น ไม่รับรองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีนี้ว่าเป็น “ก้าวย่างสำคัญในทิศทางที่ถูกต้อง” เพื่อฟื้นคืนความไว้วางใจของชาวอเมริกันที่สูญเสียไปจากสื่อ

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซีรายงาน หลังจากวอชิงตันโพสต์ออกประกาศช็อกคนอ่านเมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ไม่รับรองผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอีกต่อไปจากที่เคยทำเป็นประเพณีมาหลายสิบปี ล่าสุดในวันจันทร์ (28 ต.ค.) เบซอส เจ้าของหนังสือพิมพ์เขียนบทบรรณาธิการชื่อ“ความจริงอันยากจะยอมรับ: ชาวอเมริกันไม่ไว้ใจสื่อ” เผยแพร่ในหน้า op-edและทำเป็นหนังสือเวียนในหมู่พนักงาน ชี้แจงการตัดสินใจดังกล่าว พร้อมระบุ

“ผมหวังว่าเราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่านี้ ในช่วงเวลาที่การเลือกตั้งและอารมณ์ความรู้สึกกำลังมาถึง นั่นเป็นการวางแผนที่ไม่เพียงพอ และไม่ใช่กลยุทธ์ที่ตั้งใจไว้”

“การรับรองประธานาธิบดีไม่ได้เปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้ง ไม่มีผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจคนใดในเพนซิลเวเนียจะบอกว่า ‘ฉันเลือกเพราะหนังสือพิมพ์เอรับรอง’ ไม่มี”

“สิ่งที่การรับรองประธานาธิบดีทำแท้จริงแล้วคือการสร้างอคติทางการรับรู้ การรับรู้เรื่องความไม่เป็นอิสระ การยุติจึงเป็นการตัดสินใจที่มีหลักการและถูกต้อง”

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่บทความชิ้นนี้ได้รับการเผยแพร่สำนักข่าวเอ็นพีอาร์รายงานว่าวอชิงตันโพสต์ต้องสูญเสียสมาชิกออนไลน์ไปกว่า 200,000 รายหลังวิล ลูอิส ซีอีโอ ประกาศเลิกรับรองผู้สมัครเมื่อวันศุกร์ ซึ่งลูอิสกล่าวว่าเป็นการตัดสินใจของเขาเอง

ผลปรากฏว่า สมาชิกสามคนในคณะกรรมาธิการกองบรรณาธิการลาออกจากคณะกรรมการฯ เหลือแค่ตำแหน่งพนักงานในโพสต์อย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม บทความชิ้นหนึ่งในวอชิงตันโพสต์ฉบับวันศุกร์ รายงานอ้างบุคคลสี่คนที่รู้เรื่องการตัดสินใจดังกล่าวว่า เบซอสเป็นคนตัดสินใจหลังมีการทำร่างเอกสารวอชิงตันโพสต์รับรองคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต สำนักข่าวอื่นๆ รายงานว่าเบซอสเป็นคนยกเลิกการรับรองประธานาธิบดี

เบซอสชี้แจงในบทความเมื่อวันจันทร์ว่า การตัดสินใจดังกล่าว “กระทำขึ้นเป็นการภายในทั้งหมด”

“ผมอยากชี้แจงให้ชัดเจนด้วยว่าไม่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ใดๆ” ในการตัดสินใจไม่รับรองผู้สมัคร และไม่มีการปรึกษาหรือแจ้งทีมหาเสียงประธานาธิบดีทีมใดด้วย

แต่เบซอสแจ้งด้วยว่า เดฟ ลิมป์ ซีอีโอบลูออริจิน บริษัทสำรวจอวกาศของเขาพบกับทรัมป์ ในวันที่ลูอิสประกาศการตัดสินใจของวอชิงตันโพสต์

“ผมถอนหายใจเมื่อรู้เรื่อง เพราะผมรู้ว่ามันจะเป็นอาวุธให้คนที่อยากโหมกระพือให้เป็นเรื่องอื่นนอกเหนือจากการตัดสินใจบนหลักการ”

“แต่ข้อเท็จจริงคือ ผมไม่รู้ล่วงหน้าว่าพวกเขาพบกัน แม้แต่ลิมป์ก็ไม่รู้ล่วงหน้า การพบกันถูกกำหนดขึ้นอย่างเร่งด่วนในเช้าวันนั้น”

“ไม่มีความเกีี่ยวข้องระหว่างการพบปะกันกับการตัดสินใจรับรองผู้สมัครประธานาธิบดี ถ้ามีใครพูดแบบนี้แสดงว่าเป็นความเท็จ”

เบซอสยังตั้งข้อสังเกตถึงแกลลัพโพลล่าสุด สื่อได้รับความไว้วางใจน้อยที่สุดในบรรดา 10 สถาบันทางการเมืองและประชาชนสังคมของสหรัฐ

“สิ่งที่เรากำลังทำเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ผล” เบซอสกล่าวและว่า หนังสือพิมพ์ก็เหมือนกับเครื่องลงคะแนนเลือกตั้ง ต้องทั้งแม่นยำและประชาชนเชื่อถือว่าแม่นยำ

“มันเหมือนยาขมที่ต้องกลืน แต่เราล้มเหลวในคุณสมบัติข้อที่ 2 ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าสื่อมีอคติ คนที่ไม่เห็นสิ่งนี้คือคนที่ไม่สนใจความเป็นจริง และคนที่ต่อสู้กับความจริงต้องพ่ายแพ้”