'จีนโกรธ' สั่งระงับการลงทุนในยุโรป ตอบโต้ขึ้นภาษีรถยนต์อีวี
แหล่งข่าวในวงการรถยนต์เผย 'จีน' สั่งระงับการลงทุนรถยนต์อีวีในยุโรป ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีที่มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวานนี้ ด้านอียูเตรียมส่งตัวแทนเดินทางไปเจรจาถึงจีนด่วน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องโดยตรงว่า "รัฐบาลปักกิ่ง" ได้แจ้งไปยังบรรดาบริษัทรถยนต์สัญชาติจีน ให้ระงับการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ที่ลงมติสนับสนุนการขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มกับรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จากจีน ซึ่งเป็นที่คาดว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้น่าจะยิ่งทำให้ยุโรปแตกแยกมากขึ้น
ภาษีศุลกากรใหม่ของอียูซึ่งมีอัตราสูงสุด 45.3% มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันพุธที่ 30 ต.ค. หลังจากมีการสืบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการแข่งขันไม่เป็นธรรมของค่ายรถจีนเป็นเวลานานถึง 1 ปี ซึ่งกรณีนี้ทำให้เกิดความแตกแยกทั้งในกลุ่มประเทศอียูเอง และยังกระตุ้นให้ปักกิ่งดำเนินมาตรการตอบโต้ตามมาด้วย
ในบรรดาประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศนั้น มี 10 ประเทศที่สนับสนุนการขึ้นภาษีซึ่งรวมถึงฝรั่งเศส โปแลนด์ และอิตาลี ส่วนอีก 5 ประเทศลงเสียงคัดค้านนำโดยเยอรมนี และอีก 12 ประเทศงดออกเสียง
แหล่งข่าวซึ่งไม่เปิดเผยนามระบุว่า บรรดาค่ายรถยนต์สัญชาติจีนซึ่งรวมถึง บีวายดี (BYD), เอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC) และจีลี่ (Geely) ได้รับแจ้งในการประชุมที่จัดขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์ของจีนเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า พวกเขาควรระงับแผนการลงทุนในสินทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น การตั้งโรงงานผลิต ในประเทศที่สนับสนุนแผนการขึ้นภาษีดังกล่าว
การประชุมดังกล่าวยังมี "บริษัทรถยนต์ต่างชาติ" หลายรายเข้าร่วมด้วย โดยผู้เข้าร่วมประชุมได้รับแจ้ง "ให้ระมัดระวัง" การลงทุนในประเทศที่งดออกเสียง และได้รับการสนับสนุนให้ลงทุนในประเทศที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านการขึ้นภาษี
ทางด้าน Geely ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ในขณะที่ SAIC, BYD และกระทรวงพาณิชย์ของจีนไม่ได้ตอบกลับคำถามเกียวกับเรื่องนี้
การเคลื่อนไหวของจีนในครั้งนี้บ่งชี้ว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลังหาทางต่อรองกับอียูเพื่อหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากวิธีการขึ้นภาษี โดยต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้อุตสาหกรรมรถยนต์อีวีของตนเองเจอผลกระทบในตลาดสำคัญจนเสี่ยงทำให้ยอดขายลดลงอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน ยุโรปนับเป็นตลาดใหญ่ของรถยนต์อีวีจีน โดยมีสัดส่วนถึงกว่า 40% ของการส่งออกรถยนต์อีวีจากจีนทั้งหมดในปี 2566 ตามข้อมูลของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในจีน
ก่อนหน้านี้ จีนเพิ่งเผชิญการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์อีวีกว่า 100% จากสหรัฐและแคนาดาด้วย ซึ่งหากการส่งออกรถยนต์อีวีของจีนต้องลดลงอีกในยุโรปจากการขึ้นภาษีล่าสุด ก็อาจเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ของจีนต้องเผชิญกับ "การผลิตส่วนเกิน" ท่วมตลาดในประเทศบ้านเกิดเองมากขึ้น
อียูเตรียมบุกไปคุยถึงจีน
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า ฝ่ายอียูเตรียมส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในเร็วๆ นี้ เพื่อเจรจาหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางที่จะใช้ "ทางเลือกอื่น" แทนการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์อีวีจากจีน
แหล่งข่าวระบุว่าการตอบรับคำเชิญของจีนให้เดินทางไปปักกิ่ง แสดงให้เห็นว่าการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายยังพอมีความคืบหน้าอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเตือนว่าทางเลือกอื่นเพื่อทดแทนวิธีการขึ้นภาษีศุลกากรที่มีผลบังคับใช้ไปแล้วนั้น ยังเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน แผนการต่างๆ ยังต้องรอการสรุปในขั้นสุดท้ายและจำเป็นต้องประสานงานกับรัฐบาลจีนก่อน
ก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายได้ศึกษาว่าจะสามารถบรรลุความตกลงเกี่ยวกับ "การกำหนดราคาขั้นต่ำ" (price undertaking) แทนการขึ้นภาษีได้หรือไม่ แต่ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่มาก