หน่วยรบยูเครนหวัง 'แฮร์ริส' ชนะเลือกตั้ง
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ทหารยูเครนที่ทำการสู้รบกับกองทัพรัสเซียในแนวรบด้านตะวันออก มีความกังวลว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาชนะการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐ ในขณะที่พวกเขาชื่นชอบรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส มากกว่า
คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ได้หาเสียงว่า ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนจะยังคงมีต่อไปหากเธอได้รับชัยชนะ แต่นักวิเคราะห์ก็มองว่า อำนาจเธออาจถูกจำกัดลงโดยรัฐสภา หากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งสภาล่างและสภาบน
รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ให้การสนับสนุนทางทหารยูเครน จนถึงขณะนี้มีมูลค่ารวมเกินกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ความช่วยเหลือนี้อาจจะยุติลงภายใต้การดำรงตำแหน่งปธน.สมัยที่สองของทรัมป์
ไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไปก็ตาม จะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อพรมแดนของยูเครนและทุกคนที อาศัยอยู่ภายในบริเวณนั้น
ตัวอย่างเช่น หากทรัมป์บังคับให้ยูเครนยอมสละดินแดนและหยุดรบในแนวหน้า ภูมิภาคเช่นซาโปริซเซีย ก็อาจจะถูกแบ่งแยกเหมือนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้หลังจากการหยุดยิงที่ยุติการสู้รบในช่วงทศวรรษ 1950 แต่ไม่เคยยุติสงครามอย่างเป็นทางการเลย
ทรัมป์เคยกล่าวว่าเขาจะ “หาทาง” แก้ปัญหาสงครามและแนะว่า ยูเครนอาจต้องยอมสละดินแดนบางส่วน
ทางเลือกที่สองของสหรัฐคือถอนการสนับสนุนทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าในที่สุดกองกำลังรัสเซียอาจเข้ายึดครองทั้งภูมิภาคตะวันออกและพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของยูเครนเพิ่มเติมอีก
สถานการณ์ที่สาม คือยูเครนสามารถปลดปล่อยดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองทั้งหมด ซึ่งดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้
การขาดความก้าวหน้าในสนามรบเพื่อผลักดันให้รัสเซียถอยออกไปนี้เองที่ทำเกิดการถกเถียงในกลุ่มพันธมิตรว่าจะคงการสนับสนุนกองกำลังยูเครนต่อไปอย่างไร
อังเดรย์ นายทหารยูเครน ผู้ควบคุมกองยานเกราะที่สหรัฐส่ง ซึ่งประจำการอยู่ในแนวหน้า สะท้อนความเห็นว่า “หากความช่วยเหลือหยุดลง หรือล่าช้า ภาระหนักจะตกอยู่กับทหารราบ” เขากล่าวอธิบายว่า “เราจะสู้ด้วยสิ่งที่เรามี แต่ทุกคนรู้ดีว่า ยูเครนทำไม่ได้ด้วยตนเองเพียงลำพัง”
อังเดรย์และเพื่อนร่วมชาติชาวยูเครน ต่างตั้งหน้าตั้งตารอผล การเลือกตั้งของสหรัฐ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนอย่างใจจดใจจ่อ ความไม่แน่นอนนี้ทำให้ความหึกเหิมในสนามรบลดน้อยลง และความพยายามทางการเมืองในการหาความช่วยเหลือ เพิ่มเติมก็ลดน้อยลงไปด้วย
พันธมิตรตะวันตกมักจะดูสหรัฐเป็นตัวอย่าง ในเวลาที่จะตัดสินใจว่าจะสนับสนุนความพยายามทำสงครามของ เคียฟหรือไม่ อย่างไร
อังเดรย์กล่าวว่า “เมื่อเราได้ยินว่าผู้สมัครคนหนึ่งซึ่งไม่เต็มใจ ช่วยเรา กลับมีคะแนนนำในผลสำรวจความคิดเห็น มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าหงุดหงิด แต่เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”