สเปนระดมพลกู้ภัยครั้งใหญ่สุด หลังน้ำท่วมรุนแรงคร่าชีวิตประชาชน 214 ราย

สเปนระดมพลกู้ภัยครั้งใหญ่สุด หลังน้ำท่วมรุนแรงคร่าชีวิตประชาชน 214 ราย

สเปนระดมทหารเพิ่ม 5,000 นาย ช่วยกู้ภัย หลังน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 214 ราย

เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน รายงานเมื่อวันเสาร์ (2 พ.ย.) ว่า น้ำท่วมฉับพลันที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสเปน คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 214 ราย และสูญหายอีกหลายสิบราย ในช่วงสี่วันหลังจากฝนตกหนักถล่มภูมิภาคบาเลนเซียทางตะวันออกของสเปน

แถลงการณ์ของนายกฯระบุ รัฐบาลได้ส่งกองทัพมากกว่า 5,000 นาย เข้าช่วยเหลือ ค้นหา ทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ นอกเหนือจากทหาร 2,500 นายที่ส่งไปก่อนหน้านี้

“นี่เป็นปฏิบัติการครั้งใหญ่สุดของกองทัพสเปนในยามที่ไม่มีสงคราม รัฐบาลจะระดมทรัพยากรที่สำคัญทั้งหมดตราบเท่าที่จำเป็น” นายกฯกล่าว

สเปนระดมพลกู้ภัยครั้งใหญ่สุด หลังน้ำท่วมรุนแรงคร่าชีวิตประชาชน 214 ราย

มาร์ติน เปเรซ หัวหน้าหน่วยก้องกันพลเรือนเผยว่า ความหวังพบผู้รอดชีวิตเพิ่มขึ้นขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบผู้หญิงคนหนึ่งที่รอดชีวิตหลังติดอยู่ในลานจอดรถนาน 3 วันในเขตมอนต์กาดา เมืองบาเลนเซีย

ขณะที่อาสาสมัครจำนวนมากต่างหลั่งไหลไปยังศูนย์ศิลปะและวิทยาศาสตร์ในบาเลนเซียเมื่อวันเสาร์ เพื่อร่วมกันทำความสะอาดซึ่งจัดโดยเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาค และสถานที่ดังกล่าวได้เปลี่ยนเป็นศูนย์ปฏิบัติการ

ส่วนเขตชานเมืองบาเลนเซียอย่างเช่นเขตปิกันยา ประชาชนยังคงรอความช่วยเหลืออยู่

เอมิเลีย เจ้าของร้านค้าวัย 74 บอกว่า “เรารู้สึกเหมือนถูกทิ้ง มีคนจำนวนมากต้องการความช่วยเหลือ ไม่ใช่แค่บ้านของฉัน บ้านทุกหลังเลย เราต้องทิ้งเฟอร์นิเจอร์ เราต้องทิ้งทุกอย่าง เมื่อไหร่ความช่วยเหลือจะมาถึง ทั้งตู้เย็นและเครื่องซักผ้า เพราะเราไม่สามารถซักเสื้อผ้าได้ เราไม่สามารถจะได้อาบน้ำได้ด้วยซ้ำ”

รอยเตอร์ส ระบุ โศกนาฏกรรมครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่ปี 1967 ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 500 รายในโปรตุเกส

นักวิทยาศาสตร์บอกว่า เหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงเกิดขึ้นในยุโรป และที่อื่น ๆ บ่อยครั้งมากขึ้น เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

นักอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่อุ่นขึ้น ซึ่งทำให้น้ำระเหยมากขึ้นนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฝนตกหนักมากขึ้น

 

อ้างอิง: Reuters