รู้จัก ‘7 รัฐสวิงสเตต’ ชี้ชะตาศึก เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

รู้จัก ‘7 รัฐสวิงสเตต’ ชี้ชะตาศึก เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

เปิดรายชื่อ '7 รัฐสวิงสเตต' ชี้ชะตา ใครจะชนะในศึก เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2567 ระหว่างรองปธน.คามาลา แฮร์ริส และอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์

รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังรุดเข้าสู่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ดุเดือดมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกันสมัยใหม่ โดยเฉพาะใน “รัฐสวิงสเตต” ซึ่งเป็นรัฐที่พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันมีคะแนนสูสีกันมาก

ภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐ ผู้ก่อตั้งประเทศกำหนดให้รัฐทั้ง 50 รัฐมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีของตนเอง แต่ภายใต้ “ระบบคณะผู้เลือกตั้ง" ที่ซับซ้อน ทำให้แต่ละรัฐจะมีคณะผู้เลือกตั้งจำนวนหนึ่ง โดยอ้างอิงจากจำนวนประชากร เป็นตัวแทนลงคะแนนเลือกตั้งปธน. ซึ่งรัฐส่วนใหญ่มีระบบผู้ชนะได้คะแนนทั้งหมด (winner-take-all system) หมายถึง คณะผู้เลือกตั้งทั้งหมดของรัฐนั้น ๆ จะลงคะแนนเสียงให้กับผู้ที่ได้คะแนนเลือกตั้งสูงสุด

แคนดิเดตจะต้องมีเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งให้ได้อย่างน้อย 270 เสียง จาก 538 เสียง จึงจะชนะ เลือกตั้งสหรัฐ และการเลือกตั้งมักจะตัดสินจากรัฐที่มีการแข่งขันสูงหรือ “รัฐสวิงสเตต” ซึ่งเป็นรัฐที่พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตมักสลับกันครองเสียงส่วนใหญ่ และในปีนี้มี 7 รัฐสวิงสเตต ที่แข่งขันดุเดือดและน่าจับตา ได้แก่

  1. รัฐเพนซิลเวเนีย
  2. รัฐจอร์เจีย
  3. รัฐนอร์ทแคโรไลนา
  4. รัฐมิชิแกน
  5. รัฐแอริโซนา
  6. รัฐวิสคอนซิน
  7. รัฐเนวาดา

รัฐเพนซิลเวเนีย

เพนซิลเวเนียเคยเป็นรัฐที่เดโมแครตวางใจได้ แต่ปัจจุบันเดโมแครตไม่สามารถยึดฐานเสียงในรัฐคีย์สโตนได้อีกต่อไป

ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันเคยชนะเสียงข้างมากในรัฐที่มีประชากรมากที่สุดแห่งนี้ ซึ่งมีประชากร 13 ล้านคน ด้วยคะแนนนำ 0.7% ในปี 2559 จากนั้นไบเดนก็สามารถเอาชนะในรัฐนี้ได้ด้วยคะแนนนำ 1.2% ในปี 2563

รัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นที่รู้จักจากบรรดาเมือง Rust Belt อย่างฟิลาเดลเฟีย และพิตต์สเบิร์ก ประสบปัญหาฐานการผลิตทางอุตสาหกรรมลดลงอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ทรัมป์และแฮร์ริสรณรงค์หาเสียงในรัฐนี้นี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และรัฐนี้เป็นรัฐที่ใช้จัดดีเบตประธานาธิบดีระหว่างทรัมป์และแฮร์ริสที่มีขึ้นเพียงครั้งเดียว

ทรัมป์ผู้รอดชีวิตจากการลอบสังหารในเดือนก.ค. ระหว่างหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย ได้พยายามหาเสียงเอาใจประชากรคนผิวขาวในชนบท และเตือนว่าผู้อพยพมีมากเกินไปในเมืองเล็ก ๆ

ส่วนแฮร์ริสก็หาเสียงถึงความสำเร็จด้านโครงสร้างพื้นฐานล่าสุด และในเมืองพิตต์สเบิร์กเธอได้เสนอแผนลงทุนด้านการผลิต 1 แสนล้านดอลลาร์ ที่เป็นปัญหาสำคัญสำหรับชาวรัฐเพนซิลเวเนีย

รัฐจอร์เจีย

รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เป็นจุดชนวนความขัดแย้งในการเลือกตั้งในช่วงปลายของการดำรงตำแหน่งปธน.ของทรัมป์ในสมัยแรก และความขัดแย้งยังคงคุกรุ่น

อัยการในรัฐจอร์เจียได้ฟ้องทรัมป์ในคดีแทรกแซงการเลือกตั้ง หลังจากทรัมป์โทรหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ เรียกร้องให้พวกเขา "หาเสียงให้เพียงพอ" เพื่อพลิกผลชนะเลือกตั้งที่หวุดหวิดของไบเดนในปี 2563 แต่คดีดังกล่าวถูกระงับไว้จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ไบเดนเป็นแคนดิเดตจากเดโมแครตคนแรกที่ชนะในรัฐแห่งพีชนับตั้งแต่ปี 2535 และการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์น่าจะส่งผลดีต่อแฮร์ริส ผู้ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้มีสิทธืเลือกตั้งเสียงข้างน้อยทั่วรัฐจอร์เจีย

รัฐนอร์ทแคโรไลนา

รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เคยลงคะแนนเสียงเลือกเดโมแครตเพียงครั้งเดียวปี 2523 แต่แฮร์ริสเชื่อว่าตอนนี้พรรคเดโมแครตกลับมามีอิทธิพลอีกครั้ง

ตอนนี้รัฐที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน กำลังขยายตัวและมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อเดโมแครต

ส่วนเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกันทำให้สถานการณ์ของทรัมป์มีความยุ่งยากมากขึ้น และเจ้าหน้าของพรรคก็ไม่พอใจ เพราะกังวลว่าอาจทำให้ทรัมป์พ่ายแพ้ในการศึกเลือกตั้งครั้งนี้

รัฐนอร์ทแคโรไลนาก็เหมือนกับรัฐจอร์เจีย มีไพ่ใบสุดท้ายคือความเสียหายจากพายุเฮเลน ที่ทำให้เมืองทางฝั่งตะวันตกของนอร์ทแคโรไลนาเสียหายหนัก อาจส่งผลกระทบต่อพรรครัฐบาลได้ซึ่งก็คือพรรคเดโมแครต

รัฐมิชิแกน

ทรัมป์เคยพลิกสถานการณ์รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของเดโมแครต โดยสามารถเอาชนะฮิลลารี คลินตันได้ในศึกเลือกตั้งปี 2559

ส่วนไบเดนก็เป็นฝ่ายได้เปรียบอีกครั้งในศึกเลือกตั้งปี 2563 โดยได้รับการสนับสนุนจากคนงานในสหภาพแรงงานและชุมชนคนผิวดำจำนวนมาก

แต่ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ แฮร์ริสเสี่ยงเสียฐานเสียงสนับสนุนจากชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับกว่า 200,000 คน ที่ประณามการจัดการสงครามอิสราเอล-ฮามาสในกาซาของไบเดน รวมถึงท่าทีของแฮร์ริสต่อสงครามดังกล่าว

รัฐแอริโซนา

แอริโซนาที่มีฉายาว่าเป็นรัฐแกรนด์แคนยอน เป็นหนึ่งในรัฐที่มีการเลือกตั้งสูสีที่สุดในปี 2563 โดยไบเดนเฉือนเอาชนะทรัมป์ไปด้วยคะแนนเสียงเพียง 10,457 เสียงเท่านั้น

การเลือกตั้งครั้งนี้ ทรัมป์หวังว่า ความผิดหวังต่อนโยบายผู้อพยพของรัฐบาลไบเดน-แฮร์ริสจะทำให้แอริโซนา ที่มีพรมแดนติดกับเม็กซิโก กลับมาเป็นรัฐที่หนุนให้รีพับลิกันได้เปรียบอีกครั้ง

ขณะที่แฮร์ริสได้ไปเยือนพรมแดนแอริโซนาเมื่อเดือน ก.ย. และให้คำมั่นปราบปรามผู้อพยพและจะดำเนินการฟื้นร่างกฎหมายชายแดนที่สองพรรคเห็นพ้องกันเมื่อปีก่อน และเธอบอกว่าทรัมป์ล้มเหลวด้านวัตถุประสงค์ทางการเมือง

รัฐวิสคอนซิน

คลินตันพ่ายแพ้ในรัฐวิสคอนซินในปี 2559 แต่สถานกลับแตกต่างไปในสมัยที่ทรัมป์ชิงชัยกับไบเดน ซึ่งเป็นสถานการณ์เช่นเดียวกับรัฐมิชิแกน โดยไบเดนสามารถเปลี่ยนคะแนนที่ขาดอยู่ 23,000 เสียง เป็นคะแนนนำ 21,000 เสียงให้กับพรรคเดโมแครต

ขณะที่ศึกเลือกตั้งปีนี้ ทรัมป์มองว่าตนสามารถเอาชนะในรัฐนี้ได้ และพรรครีพับลิกันก็ได้จัดประชุมใหญ่ระดับชาติในรัฐนี้ในช่วงฤดูร้อน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทรัมป์มีคะแนนความนิยมนำไบเดนในช่วงแรก แต่เมื่อแฮร์ริสลงแข่งขันก็ทำให้รัฐนี้มีการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น

รัฐเนวาดา

รัฐเงินแห่งนี้ที่มีประชากรราว 3.1 ล้านคน ไม่ได้เลือกพรรครีพับลิกันมาตั้งแต่ปี 2547 แต่พรรคอนุรักษนิยมที่ได้รับแรงหนุนจากผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงชาวฮิสแปนิกที่สนับสนุนทรัมป์ เชื่อว่า พรรคสามารถพลิกสถานการณ์ได้ และทรัมป์ก็มีคะแนนความนิยมนำอย่างมากในศึกเลือกตั้งครั้งนี้เมื่อเทียบกับไบเดน

แต่ภายในไม่กี่สัปดาห์เมื่อรองปธน.ได้เป็นแคนดิเดตพรรคเดโมแครต แฮร์ริสได้เสนอแผนเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและแผนต่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งอาจบั่นทอนความได้เปรียบของทรัมป์ในรัฐนี้ได้ 

 

อ้างอิง: CNA