สรุปจบตาแจ้ง! ทุกคดีทรัมป์ เอาไงต่อ?

สรุปจบตาแจ้ง! ทุกคดีทรัมป์ เอาไงต่อ?

ระหว่างการหาเสียงเพื่อกลับมานั่งในทำเนียบขาวอีกครั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องเจอคดีอาญาต่างกรรมต่างวาระสี่คดี ตอนนี้เขาชนะเลือกตั้งแล้ว อัยการกำลังหาทางยกเลิกสองคดีที่รัฐบาลกลางฟ้อง ส่วนอีกสองคดีที่ถูกรัฐฟ้องก็ยังไม่ทราบอนาคตเช่นกัน

 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก สรุปทุกคดีของทรัมป์ ไว้ดังนี้ 

คดีใช้เงินปิดปากฟ้องโดยรัฐนิวยอร์ก

 ในเดือน พ.ค. ทรัมป์กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐที่ต้องคดีอาญา หลังพบว่ากระทำความผิด 34 กระทงให้ข้อมูลธุรกิจเท็จ ตามคำฟ้องในนามรัฐนิวยอร์กโดยอัลวิน แบร็กกอน อัยการศาลแขวงแมนฮัตตัน

คณะลูกขุนตัดสินว่าทรัมป์มีส่วนร่วมกระทำความผิด ปกปิดการจ่ายเงิน 130,000 ดอลลาร์ ให้กับสตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังวาบหวิว ก่อนการเลือกตั้งปี 2016 เพื่อไม่ให้เธอแพร่งพรายถึงเพศสัมพันธ์ที่เคยมีเมื่อสิบปีก่อนหน้านั้น

ผู้พิพากษาฮวน เมอร์ชาน ในแมนฮัตตัน มีกำหนดพิพากษาบทลงโทษต่อทรัมป์ในวันที่ 26 พ.ย. แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการพิจารณาจะเดินหน้าหรือไม่

คดีนี้ทรัมป์อาจต้องโทษจำคุกถึงสี่ปี แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายคนคาดการณ์ว่าอาจโดนสั้นมาก หรืออาจโดนทัณฑ์บนเพราะนี่เป็นการกระทำความผิดครั้งแรก

 

การที่ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งก่อให้เกิดคำถามว่า เขาจะโดนจำคุกจริงหรือไม่ คาดว่าทนายความของเขาจะโต้แย้งตามความในมาตราว่าด้วยอำนาจสูงสุดตามรัฐธรรมนูญว่า การที่รัฐนิวยอร์กจะจำคุกประธานาธิบดีเป็นการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรานี้ห้ามมลรัฐแทรกแซงการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกลาง

“คุณไม่สามารถปล่อยให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด บุคคลผู้ทรงอำนาจที่สุดในโลก เข้าไปอยู่ในคุกของรัฐได้” จอน เซล อดีตอัยการกลาง ผู้ทำหน้าที่ที่ปรึกษาพิเศษระหว่างสอบสวนคดีวอเตอร์เกตให้ความเห็น

เป็นไปได้ว่าการฟังคำกำหนดโทษอาจเงียบไปในที่สุด เมอร์ชานกล่าวว่า เขาจะพิจารณาคำร้องของทรัมป์ภายในวันที่ 12 พ.ย. ให้ยกเลิกคำพิพากษา ตามคำตัดสินประวัติศาสตร์ของศาลสูงเมื่อเดือน ก.ค.ว่า อดีตประธานาธิบดีไม่ต้องโดนดำเนินคดีอาญาในการปฏิบัติราชการขณะอยู่ในตำแหน่ง

ทรัมป์โต้แย้งว่าการพิจารณาคดีของเขาเต็มไปด้วยคำให้การและหลักฐานอื่นๆ ที่มาตรฐานใหม่ไม่อนุญาต แม้ว่าคดีเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของเขาก่อนที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตาม

หากจะตัดสินคดีต่อไป ทรัมป์ยังคงเป็นประธานาธิบดีได้เนื่องจากไม่ได้มีข้อกำหนดคุณสมบัติประธานาธิบดีว่าต้องไม่เคยมีคดีอาญา

  • คดีสมรู้ร่วมคิดล้มผลเลือกตั้ง 2020

เดือน ส.ค.2023 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ตั้งข้อหาทรัมป์  สมรู้ร่วมคิดล้มล้างผลเลือกตั้ง 2020 ที่เขาเป็นฝ่ายปราชัย และยุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลที่อาคารรัฐสภา คดีนี้ทรัมป์เสี่ยงติดคุกหลายสิบปี

แต่แจ็ก สมิธ อัยการพิเศษผู้ฟ้องคดีต้องถูกเลื่อนคดีบ่อยครั้ง แถมศาลสูงยังตัดสินให้ทรัมป์มีเอกสิทธิคุ้มครอง

ผู้พิพากษามีมติ 6-3 ว่า อดีตประธานาธิบดีไม่ต้องรับโทษใดๆ จากการกระทำตามอำนาจหน้าที่ประธานาธิบดีที่กำหนดไว้ชัดเจนตามรัฐธรรมนูญ แต่การกระทำส่วนตัวอาจถูกดำเนินคดีได้

เมื่อศาลสูงพิพากษามาแบบนี้ สมิธกดดันด้วยการยื่นฟ้องใหม่โดยตัดรายละเอียดบางอย่างออกไป แต่รวมสี่คำฟ้องเดิมเอาไว้ด้วย กลายเป็นการต้องมาต่อสู้กันใหม่ว่า การกระทำของทรัมป์เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือกระทำการส่วนตัว

ตอนนี้คดีอาจเงียบไปเพราะทรัมป์ได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมรายหนึ่งเผยว่า สมิธเริ่มเตรียมการยกเลิกดำเนินคดี

ในวันที่ 8 พ.ย. เขาขอให้ผู้พิพากษาที่ดูแลคดีนี้ยกเลิกกำหนดการคดีทั้งหมด ขณะที่รัฐบาลประเมินว่าจะทำอะไรต่อไป นโยบายกระทรวงยุติธรรมในปี 2000 กำหนดว่า

“การฟ้องร้องหรือดำเนินคดีอาญาต่อประธานาธิบดีในขณะดำรงตำแหน่ง ถือเป็นการทำลายความสามารถของฝ่ายบริหารในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามรัฐธรรมนูญ จึงถือเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อทรัมป์มีอำนาจ เขาอาจสั่งให้กระทรวงยุติธรรมยื่นคำร้องต่อศาลขอยกฟ้องคดี หรือไล่สมิธออก อย่างที่เขาเคยกล่าวว่าจะทำ “ภายในสองวินาที” เมื่อรับตำแหน่ง

คดีเอกสารลับ

ในเดือน มิ.ย.2023 สมิธยังตั้งข้อหาทรัมป์อีกหลายสิบกระทง โทษฐานจงใจเก็บเอกสารความมั่นคงแห่งชาติไว้หลังจากพ้นจากตำแหน่ง และขัดขวางความพยายามเก็บเอกสารคืน

ก่อนหน้านี้ผู้พิพากษาคนหนึ่งที่ทรัมป์แต่งตั้งยกฟ้องคดีนี้ไปโดยพิพากษาว่า สภาคองเกรสไม่ได้ให้อำนาจชัดเจนแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการแต่งตั้งหรือให้งบประมาณแก่สมิธ กระทรวงยุติธรรมอุทธรณ์คำสั่งยกฟ้อง ระบุว่าคำสั่งดังกล่าวผิดไปจากคำตัดสินในอดีตของศาลหลายแห่งที่สนับสนุนการทำงานของอัยการพิเศษ

คดีเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย

ฟานี วิลลิส อัยการแขวงฟุลตันเคาน์ตี รัฐจอร์เจีย ยื่นฟ้องคดีทรัมป์ด้วยตนเองเมื่อเดือน ส.ค.2023 ตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับผู้สนับสนุนกว่า 12 คน ไม่ยอมรับว่าแพ้เลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย

แม้ประธานาธิบดีสหรัฐไม่มีอำนาจควบคุมอัยการรัฐโดยตรง แต่ทนายความของทรัมป์กำลังเตรียมการหาทางยกเลิกคดีรัฐจอร์เจีย โดยให้เหตุผลว่า ไม่ควรดำเนินคดีต่อไปเพราะเขากำลังจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี

กลยุทธ์นี้มีจุดเน้นที่การโน้มน้าวศาลให้เชื่อว่าแนวทางของกระทรวงยุติธรรมต่อการฟ้องร้องประธานาธิบดีผู้กำลังดำรงตำแหน่งนั้นใช้ได้กับประธานาธิบดีที่เพิ่งได้รับเลือกซึ่งถูกกล่าวหาในระดับรัฐด้วย

ทีมกฎหมายทรัมป์จะต้องทำเรื่องนี้ก่อนวันที่ 5 ธ.ค. ที่ศาลอุทธณ์รัฐจอร์เจียมีกำหนดพิจารณาข้อโต้แย้งว่าวิลลิสควรถูกถอดออกจากคดีหรือไม่ เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับอัยการคนหนึ่งผู้ถอนตัวออกจากการทำคดีไปแล้ว