‘วิกฤติขาดชิป’ เป็นอดีตไปแล้ว ซีอีโอ Qualcomm ยันไม่ซ้ำรอย เพราะอุปสงค์อุปทานชิปสมดุล 100%
‘วิกฤติขาดแคลนชิป’ ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว หลังจากทั่วโลกเร่งลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตอย่างหนัก แม้ว่าความต้องการชิปสำหรับ AI เติบโตแรง แต่ผู้บริหาร Qualcomm มั่นใจว่าจะไม่มีการขาดแคลนซ้ำรอยอีก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “คริสเตียโน อามอน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Qualcomm ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐกล่าวว่า แม้ว่าความต้องการสมาร์ทโฟนที่รองรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเพิ่มขึ้น แต่ก็จะ “ไม่นำไปสู่” การขาดแคลนชิประดับโลกอีกครั้ง เช่นเดียวกับช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19
อามอนให้เหตุผลว่า “ในช่วงการระบาดโควิด ทุกคนอยู่บ้านและเริ่มซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งดีสำหรับธุรกิจ แต่ห่วงโซ่อุปทานไม่สามารถรับมือดีมานด์ที่พุ่งได้ จนเกิดการขาดแคลน” เขากล่าวต่อว่า “นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงมีการลงทุน ‘จำนวนมาก’ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตชิป”
“ในวันนี้ อุปสงค์และอุปทานของเซมิคอนดักเตอร์มีความสมดุลกันร้อยเปอร์เซ็นต์” เขากล่าว
นับตั้งแต่เกิดปัญหาการขาดแคลนชิปในช่วงการระบาด รัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกได้ประกาศให้เงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมสำคัญนี้ ทำให้เกิดการลงทุนจากรัฐบาลจำนวนมากในด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก
ตัวอย่างในสัปดาห์นี้ คือ นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะแห่งญี่ปุ่น ได้ประกาศเงินสนับสนุนใหม่มูลค่ากว่า 65,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.2 ล้านล้านบาท สำหรับภาคเซมิคอนดักเตอร์และ AI ของประเทศ เพื่อพยายามให้ก้าวทันกับสหรัฐ สหภาพยุโรป และจีน
Qualcomm ผู้ขายชิปประมวลผลสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้คาดการณ์ยอดขายที่สดใสสำหรับไตรมาสปัจจุบัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อามอนกล่าวว่า ความต้องการชิปประมวลผลสมาร์ทโฟนจะยังคงเติบโต เนื่องจากผู้ใช้ยกระดับไปยังโทรศัพท์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น ซึ่งมีคุณสมบัติ AI
“เมื่อผู้ใช้คิดเกี่ยวกับการซื้อโทรศัพท์เครื่องต่อไป พวกเขาต้องการซื้อโทรศัพท์ที่ดีกว่า” อามอนกล่าวในการประชุมเมื่อวันอังคาร “เราเห็นสิ่งนี้มาโดยตลอด และผมคาดหวังว่าความสามารถในการประมวลผล AI และการใช้งาน AI จะเร่งแนวโน้มนี้ต่อไป”
อ้างอิง: bloomberg