‘รัสเซีย’ ทำสถิติรุกคืบ ‘ยูเครน’ ได้รวดเร็วสุด โดยอาศัยจุดอ่อนในแนวหน้า
นักวิเคราะห์และบล็อกเกอร์เกี่ยวกับสงคราม เผยว่า กองทัพรัสเซียรุกคืบยูเครนด้วยอัตราเร็วสูงสุดนับตั้งแต่รุกรานยูเครนช่วงแรกๆเมื่อปี 2565 ซึ่งสามารถครองพื้นที่เทียบเท่าพื้นที่ราวครึ่งหนึ่งของกรุงลอนดอน (ลอนดอนมีพื้นที่ราว 1,572 ตร.กม.) ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
รอยเตอร์สรายงานว่า สงครามกำลังเข้าสู่ช่วงที่เจ้าหน้าที่รัสเซียและชาติตะวันตกบอกว่า อาจเป็นช่วงที่อันตรายที่สุดหลังจากกองทัพมอสโกยึดครองดินแดนได้มากที่สุด และสหรัฐอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลยิงเข้าไปในรัสเซีย
สำนักข่าวอิสระรัสเซีย Agentstvo รายงานว่า รัสเซียทำสถิติยึดครองพื้นที่ได้มากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์และรายเดือน โดยสามารถครองพื้นที่ได้เกือบ 235 ตารางกิโลเมตรในยูเครนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการยึดครองพื้นที่รายสัปดาห์มากที่สุดในปีนี้
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก DeepState ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับกองทัพยูเครน ที่ศึกษาภาพการสู้รบและจัดทำแผนที่แนวหน้า พบว่า กองทัพรัสเซียยังสามารถยึดครองพื้นที่ได้มากถึง 600 ตารางกิโลเมตรในเดือนพ.ย.
ตามข้อมูลแผนที่โอเพนซอร์ส ระบุว่า ในเดือนก.ค. รัสเซียสามารถรุกคืบทางตะวันออกของยูเครนได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่กองทัพยูเครนบุกยึดพื้นที่ทางตะวันตกของภูมิภาคคูร์สก และนับแต่นั้นมาการรุกคืบของรัสเซียก็รวดเร็วขึ้น
คว้าโอกาสจุดอ่อนแนวหน้ายูเครน
นักวิเคราะห์จากสถาบัน Study of War ระบุในรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้กองทัพรัสเซียรุกคืบในอัตราที่รวดเร็วมากกว่าที่เคยทำได้ทั้งหมดในปี 2566
นักวิเคราะห์บอกว่า กองทัพรัสเซียกำลังเคลื่อนพลเข้าสู่เมืองคูราคอฟ (Kurakhove) ซึ่งเป็นการเคลื่อนพลครั้งสำคัญเข้าสู่ศูนย์กลางโพครอฟสก์ (Pokrovsk) ในภูมิภาคโดเนตสก์ และเพื่อใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของกองทัพยูเครนในแนวหน้า
กองกำลังติดอาวุธของกองเสนาธิการทหารยูเครน อัปเดตเมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ (25 พ.ย.) ว่า มีการสู้รบอย่างรุนแรงหลายรูปแบบทั้งสิ้น 45 ครั้ง ตามแนวหน้าของเมืองคูราคอฟ
ขณะที่บล็อกเกอร์ที่สนับสนุนกองทัพรัสเซีย รายงานว่า กองทัพรัสเซียอยู่ในคูราคอฟ ส่วน Deep State โพสต์ในเทเลแกรมระบุว่า กองทัพรัสเซียอยู่ใกล้กับคูราคอฟเช่นกัน
นักวิเคราะห์ย้ำ “การรุกคืบของกองทัพรัสเซียในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการค้นพบ และการใช้ประโยชน์ทางยุทธวิธีจากจุดอ่อนในแนวรบของยูเครน”
ทั้งนี้ รัสเซียบอกมาตลอดว่า จะบรรลุเป้าหมายทั้งหมดในยูเครนไม่ว่าชาติตะวันตกจะบอกหรือทำอย่างไร
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ย้ำแล้วย้ำอีกว่า ความสงบสุขไม่สามารถเกิดขึ้นได้จนกว่ากองทัพรัสเซียจะถูกขับออกไป และดินแดนที่รัสเซียยึด รวมทั้งไครเมีย ถูกส่งคืนมา
เซเลนสกีเชื่อว่า วัตถุประสงค์หลักของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย คือการยึดครองพื้นที่ดอนบาสทั้งหมด ซึ่งกินอาณาเขตตั้งแต่ภูมิภาคโดเนตสก์และลูฮันสก์ และขับไล่กองทัพยูเครนออกจากภูมิภาคคูร์สก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ยูเครนยึดครองไว้ได้บางส่วนตั้งแต่เดือนส.ค. ที่ผ่านมา
อ้างอิง: Reuters