‘อีลอน มัสก์’ คนแรกของโลก! มั่งคั่ง 4 แสนล้านดอลลาร์ หลังหุ้น Tesla พุ่ง 69%
‘อีลอน มัสก์’ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐี 4 แสนล้านดอลลาร์คนแรกของโลก หลังขายหุ้นบริษัท SpaceX และราคาหุ้น Tesla พุ่ง 69% ตั้งแต่ทรัมป์ชนะ ทำนิวไฮใหม่ในรอบ 3 ปี หนุนมาร์เก็ตแคปแตะ 5.5 แสนล้านดอลลาร์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานความมั่งคั่งของ “อีลอน มัสก์” ก้าวขึ้นเป็นบุคคลแรกของโลกที่มีทรัพย์สินสุทธิทะลุ 400,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งความมั่งคั่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 77% หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” ชนะการเลือกตั้ง
ตามข้อมูลจากดัชนี Bloomberg Billionaires Index ทรัพย์สินของเขาขยับขึ้นไปแตะระดับ 447,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่มีการขายหุ้นในบริษัท SpaceX ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของเขา ส่งผลให้มูลค่าสุทธิของเขาเพิ่มขึ้นประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งราคาหุ้น Tesla ที่พุ่งขึ้นถึง 71% นับตั้งแต่ทรัมป์ชนะ
ความมั่งคั่งของมัสก์เพิ่มขึ้น 62,800 ล้านดอลลาร์ในวันเดียว นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ นับตั้งแต่ในปี 2567 อีลอน มัสก์มั่งคั่งขึ้นอย่างมหาศาลโดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 218,000 ล้านดอลลาร์
มูลค่ารวมของมหาเศรษฐี 500 อันดับแรกของโลกทะลุ 10 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ตามข้อมูลของธนาคารโลก ซึ่งมูลค่ารวมนี้เทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเทศ เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย รวมกันในปีที่ผ่านมา
Tesla ทำนิวไฮในรอบ 3 ปี
ราคาหุ้นของ Tesla พุ่งทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 424.77 ดอลลาร์เมื่อวันพุธที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้นถึง 71% ในปีนี้ โดยเป็นการทำนิวไฮใหม่ในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2564
การพุ่งขึ้นครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังของนักลงทุนว่านโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในสมัยที่ 2 จะสนับสนุนเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของ Tesla และยกเลิกภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนี้ มัสก์ยังได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลชุดใหม่โดยดำรงตำแหน่งหัวหน้าร่วมของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ แม้ว่ากรมนี้จะทำงานนอกรัฐบาล แต่ก็ทำให้เขามีตำแหน่งในวอชิงตันและสามารถติดต่อทำเนียบขาวได้โดยตรง
รวมทั้ง ความเห็นเชิงบวกจากนักวิเคราะห์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้นถึง 69% ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 5.5 แสนล้านดอลลาร์
อ้างอิง Bloomberg