‘ไทย’ เป็นเจ้าภาพประชุม 2 วาระสำคัญเกี่ยวกับ ‘เมียนมา’ 19-20 ธ.ค. นี้

หารือร่วมเพื่อนบ้านเมียนมาไม่เป็นทางการ

นายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและอธิบดีกรมสารนิเทศ เผยวันนี้ (16 ธ.ค.) ว่า ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศจีน อินเดีย ลาว เมียนมา บังกลาเทศ และไทย ในกรุงเทพฯ ในวันที่ 19 ธ.ค. 2567 โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการประชุม ซึ่งทั้ง 6 ประเทศ ล้วนเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมา

การหารือดังกล่าวเป็นการหารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อห่วงกังวลร่วมกัน โดยเน้นไปที่ปัญหาความมั่นคงชายแดนและอาชญากรรมข้ามชาติต่าง ๆ อาทิ ขบวนการค้ายาเสพติดและการหลอกลวงออนไลน์

ในการเป็นเจ้าภาพหารือนี้ สะท้อนบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทย ในการส่งเสริมการปรึกษาหารือกันอย่างตรงไปตรงมาระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะแนวทางเพื่อนำไปสู่การร่วมมือกันมากขึ้น ในประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยหรือเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน

โฆษกกระทรวงต่างประเทศย้ำว่า ไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน มีความพร้อมสนับสนุนความพยายามของอาเซียนที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมา

อย่างไรก็ตาม การประชุมนี้ไม่ใช่การประชุมครั้งแรก เพราะเคยมีการประชุมเช่นนี้มา 2 ครั้งแล้ว โดยครั้งแรกเป็นการประชุมที่มีขึ้นระหว่างการประชุมบิมสเทค (BIMSTEC) ณ กรุงนิวเดลี เมื่อเดือน ก.ค. โดยมีอินเดีย เมียนมา ไทยเข้าร่วมประชุมครั้งนั้น และครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่เชียงใหม่ ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง เมื่อวันที่ 16 ส.ค. โดยมีไทย เมียนมา ลาว และจีนเข้าร่วม

เนื่องด้วยในการประชุม 2 ครั้งแรก หลายฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่าการหารือนี้มีความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาข้อห่วงร่วมกัน จึงนำมาสู่การหารืออย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 19 ธ.ค. นี้

อธิบดีกรมสารนิเทศเผยด้วยว่า การประชุมครั้งต่อไปมีความแตกต่างจากสองครั้งแรก เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ประเทศเพื่อนบ้านเมียนมาทั้งหมดได้ประชุมพร้อมกัน

ทั้งนี้คาดว่า เจ้าหน้าที่จากเมียนมาที่จะเข้าร่วมการประชุมในวันดังกล่าวอาจเป็นเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน

ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนไม่เป็นทางการ

นายมาริษ จะเข้าร่วมการหารืออย่างไม่เป็นทางการแบบขยายในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียน (Extended Informal Consaltation) เกี่ยวกับการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน ในเรื่องสถานการณ์ในเมียนมา

โฆษกกระทรวงฯเผยว่า การประชุมนี้เป็นผลมาจากการประชุม ASEAN Foreign Ministerial Meetings (AMM) ซึ่งเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ลาว เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ต่อมาก็มีการพูดถึงการประชุมในลักษณะนี้ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ในวันที่ 9 ต.ค. ในลาวเช่นกัน

การประชุมนี้มาจากแนวคิดของไทยที่เห็นว่าควรเปิดโอกาสให้ประเทศที่สนใจหรือมีส่วนได้ส่วนเสียร่วมหารือได้ ไม่เพียงแต่ประเทศที่เป็นหุ้นส่วนในปัจจุบันหรือในอนาคตเท่านั้น

ไทยได้แสดงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ซึ่งขณะนี้มี 6 ประเทศตอบรับกลับมาแล้ว ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ลาว ไทย และเวียดนาม

ในช่วงเช้าของวันที่ 20 ธ.ค. จะเป็นการประชุม Informal Consaltation ระหว่างลาว อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ต่อมาในช่วงสายเป็นการประชุม Extended Informal Consaltation โดยมี 2 วาระ ได้แก่ สถานการ์ในเมียนมา และการดำเนินการฉันทามติ 5 ข้อ  เพื่อให้มีผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น

โฆษกนิกรเดชย้ำ การประชุมดังกล่าว เป็นการประชุมที่ไม่เป็นทางการ ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่เชื่อว่าเป็นกลไกที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย เพื่อกำหนดทิศทางให้อาเซียนสามารถหารือแนวทางต่อไปว่ามีสิ่งใดที่สมาชิกจะช่วยเหลือเมียนมาได้  และนำไปหารือต่อในการประชุม AMM ที่มาเลเซียในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม การประชุมวันที่ 20 ธ.ค. ยังไม่ชัดเจนว่าเมียนมาจะเข้าร่วมหรือไม่ แต่นายนิกรเดชคาดว่าอาจไม่ได้เข้าร่วม เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตัดสินใจการดำเนินการประชุมของลาว ซึ่งเป็นประธานอาเซียน

“ผมเชื่อว่าการประชุมทั้งสองวันนี้ จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนความพยายามซึ่งกันและกัน เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมา” อธิบดีนิกรเดชกล่าว