ยอดขโมย ‘คริปโทฯ’ ปี 67 พุ่ง 2,200 ล้านดอลล์ ‘แฮกเกอร์เกาหลีเหนือ’ ตัวท็อปนักปล้น
คริปโทเคอร์เรนซีถูกขโมยมูลค่ามากถึง 2,200 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ และแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ครองสัดส่วนขโมยคริปโทฯมากกว่าครึ่ง
บีบีซีรายงานว่า คริปโทเคอร์เรนซี ถูกขโมยในปี 2567 มากถึง 2,200 ล้านดอลลาร์ และพบว่า แฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ครองสัดส่วนขโมยคริปโทฯมากกว่าครึ่ง
ไชนาไลสิส ธุรกิจวิจัย เผยว่า แฮกเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องประเทศสันโดษอย่างเกาหลีเหนือ ขโมยเหรียญดิจิทัลมูลกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ มากกว่ามูลค่าที่ขโมยในปีที่แล้ว 2 เท่า
รายงานระบุว่า การโจรกรรมบางกรณีมีความเชื่อมโยงกับแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือที่แอบอ้างว่าเป็นพนักงานไอทีที่ทำงานจากที่ไหนก็ได้ (remote IT workers) เพื่อแทรกซึมคริปโทฯ และธุรกิจเทคโนโลยีอื่น ๆ
การโจรกรรมคริปโทฯของแฮกเกอร์กลุ่มนี้ที่มีมูลค่ามากขึ้นนั้น เนื่องจากราคาบิตคอยน์พุ่งมากกว่าสองเท่า เพราะว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มองคริปโทฯในแง่บวกมากกว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ
โดยรวมแล้วคริปโทเคอร์เรนซีในปีนี้ถูกขโมยโดยแฮ้กเกอร์เพิ่มขึ้น 21% จากปี 2566 แต่ยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดในปี 2564 และ 2565
รายงานระบุว่า คริปโทที่ถูกขโมยในปีนี้ ตอกย้ำถึงความจำเป็นของอุตสาหกรรมในการจัดการกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยคริปโทฯที่ถูกขโมยส่วนใหญ่ในปีนี้มีสาเหตุมาจากการโจรกรรมกุญแจ ที่ใช้เพื่อควบคุมการเข้าถึงทรัพย์สินของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มคริปโทฯ
การขโมยคริปโทฯที่เลื่องชื่อที่สุดในปีนี้ มีทั้งการขโมยบิตคอยน์จาก DMM Bitcoin ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทฯสัญชาติญี่ปุ่น มูลค่ามากถึง 300 ล้านดอลลาร์ และจาก WazirX แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯในอินเดีย 235 ล้านดอลลาร์
รัฐบาลสหรัฐ กล่าวไว้ว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือใช้วิธีขโมยสกุลเงินดิจิทัลและก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรระหว่างประเทศและเพื่อระดมทุนของตัวเอง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลในเซนต์หลุยส์ได้สั่งฟ้องชาวเกาหลีเหนือ 14 คน ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในแผนการระยะยาวเพื่อรีดไถเงินจากบริษัทสหรัฐและโอนเงินให้กับโครงการอาวุธของรัฐบาลเปียงยาง