บริษัท ‘เยอรมนี’ ฝ่าวิกฤติปี 68 คาดผลประกอบการโตสวนทาง 'เศรษฐกิจถดถอย'
บริษัท ‘เยอรมนี’ ฝ่าวิกฤติปี 68
คาดผลประกอบการธุรกิจในาดัชนี DAX เติบโต 10% สวนทางเศรษฐกิจเสี่ยงถดถอยอีกปี ท่ามกลางอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังย่ำแย่ จนเยอรมนี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ใน “เยอรมนี” มีแนวโน้มสูงขึ้น ท่ามกลางความท้าทายมากมาย ทั้งการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามา อัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และวิกฤตในอุตสาหกรรมยานยนต์
Bloomberg Intelligence พบว่าดัชนี DAX ซึ่งประกอบด้วยบริษัทชั้นนำของเยอรมนี มีแนวโน้มที่จะสร้างผลกำไรต่อหุ้นเติบโตสูงถึง 10% ในปี 2568 ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับดัชนีอื่นๆ ในยุโรป
ดัชนี DAX ที่ประกอบด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง BMW, Mercedes-Benz และ Volkswagen นั้น มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นกว่าดัชนี Stoxx Europe 600 ที่คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 7.1% และดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสที่คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 8.8%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี Euro Stoxx 50 อาจเติบโตได้ถึง 7.5% ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคส่วนต่างๆ เช่น สินค้าฟุ่มเฟือย พลังงาน และเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคอุตสาหกรรมและการเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ตลาดหุ้นยุโรปกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
‘อุตสาหกรรมยานยนต์’ ตัวแปรสำคัญต่อเศรษฐกิจ
แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าบริษัทในดัชนี DAX จะมีผลประกอบการที่ดีในปี 2568 แต่ ไคดี้ เหมิง และโลรองต์ ดูยเลต์ นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับการคาดการณ์การเติบโตของกำไรในปี 2568 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมที่อ่อนไหวต่อสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีที่กำลังประสบปัญหาอยู่
ทั้งนี้ ดูยเลต์ ได้แสดงความเห็นว่าการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์นี้อาจจะยังไม่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่จนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี
อย่างไรก็ดี ผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้อาจไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่อาจส่งผลกระทบ เช่น ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนที่อาจมีความผันผวน การเลือกตั้งในประเทศที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ
Douillet ระบุว่าบริษัทผลิตรถยนต์น่าจะปรับปรุงบัญชีในปี 2024 เพื่อให้ฐานในการเปรียบเทียบผลประกอบการในปีปัจจุบันมีความชัดเจนมากขึ้น และบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น ดอยช์ บุนเดสแบงก์ (Deutsche Bundesbank) , ซีเมนส์ (Siemens), SAP, Adidas และ Porsche จะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเติบโตของตลาด
เสี่ยง ‘เศรษฐกิจถดถอย’ อีกปี
เยอรมนีอาจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่อเนื่องอีกหนึ่งปี ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่น่ากังวล ดังนั้นความชัดเจนในการนำของรัฐบาลและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและดึงดูดนักลงทุนให้กลับเข้ามาในตลาดหุ้น DAX
การเลือกตั้งครั้งสำคัญของเยอรมนีกำลังจะมีขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ได้ตัดสินใจยุบสภาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา การเลือกตั้งครั้งนี้อาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการเมืองเยอรมนี
ผลโพลล่าสุดจาก Bloomberg ชี้ให้เห็นว่าพรรคอนุรักษ์นิยม CDU-CSU ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านกำลังนำอันดับหนึ่งด้วยคะแนนสนับสนุนเกือบ 33% ตามมาด้วยพรรคขวาจัด AfD (พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี) ที่ได้รับคะแนนสนับสนุน 18% ขณะที่พรรคโซเชียลเดโมแครตของนายกรัฐมนตรีชอลซ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นแกนนำรัฐบาลผสม 3 พรรค กลับตกมาอยู่อันดับสามด้วยคะแนนเพียง 16%
เศรษฐกิจเยอรมันกำลังเผชิญหน้ากับภาวะถดถอยอย่างหนัก ซึ่งยังทางออกที่เป็นรูปธรรมไม่ได้ โดยธนาคารกลางสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้น้อยมากในปีนี้ หลังจากที่หดตัวไปแล้วในปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงของสถานการณ์และความยากลำบากในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
โซฟี วอร์ริก นักวิเคราะห์จาก JP Morgan ได้แสดงความเห็นว่า โอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจเยอรมนีที่ซบเซาอาจขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ หากพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายกฎเกณฑ์ 'เบรกหนี้' ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการกู้ยืมของรัฐบาลเยอรมนี ก็อาจเปิดทางให้มีการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น
โทมัส ซโลวอดสกี้ จากออดโด บีเอชเอฟได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรป โดยระบุในบันทึกเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมว่า ประเทศสำคัญอย่างฝรั่งเศสและเยอรมนี กำลังประสบปัญหาและคาดว่าจะยังคงเป็นจุดอ่อนที่สุดในปี 2568
อ้างอิง Bloomberg