'แบงก์ชาติจีน' อัดฉีดสภาพคล่องครั้งใหญ่ 21 ปี ใส่เงินรอบนี้ 9 แสนล้านหยวน
ธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้น 9.58 แสนล้านหยวน มากที่สุดครั้งที่สองในรอบ 21 ปี หลังสภาพคล่องในระบบเริ่มสะดุดก่อนช่วงตรุษจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวันนี้ (15 ม.ค.) ว่า แบงก์ชาติจีน ได้อัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้นเข้าระบบการเงินสูงที่สุดเป็นครั้งที่สองในรอบ 21 ปี เพื่อช่วยพยุงสภาพคล่องในระบบที่กำลังตึงตัวก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนในปลายเดือนม.ค.
ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้นรวม 9.58 แสนล้านหยวน (ราว 4.5 ล้านล้านบาท) ผ่านการทำข้อตกลง Reverser Repo ระยะ 7 วันในธุรกรรมตลาดเงินรายวัน ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลของบลูมเบิร์กพบว่า การอัดฉีดสภาพคล่องรอบนี้สูงที่สุดเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา
แถลงการณ์ของ PBOC ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อชดเชยผลกระทบจากสัญญาการกู้ยืมระยะกลางที่สิ้นสุดลง รวมถึงยังเป็นช่วงฤดูภาษีที่คับคั่งที่สุดของปี เป็นช่วงที่มีความต้องการเงินสดก่อนวันหยุดตรุษจีน และเพื่อรักษาสภาพคล่องของระบบธนาคารให้เพียงพอ
การสนับสนุนสภาพคล่องจำนวนมากนี้จะเป็นความโล่งใจสำหรับสถาบันการเงินในจีน หลังจากที่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ "วิกฤติขาดแคลนเงินสด" ได้ผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยการระดมทุนระหว่างธนาคาร ระยะ 7 วัน พุ่งสูงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี
ในขณะที่ความมุ่งมั่นของ PBOC ที่จะปกป้องค่าเงินหยวนที่อยู่ภายใต้แรงกดดันหนัก ทำให้เกิดความกังวลกันขึ้นว่า PBOC อาจจะไม่สามารถช่วยสนับสนุนสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับระบบเศรษฐกิจได้
"PBOC น่าจะยังคงเข้ามาดำเนินการในตลาดเพิ่มขึ้นในปี 2025 เพราะมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องมือนโยบายการเงิน นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะส่งผลต่อบรรยากาศสภาพคล่อง นอกเหนือไปจากการคุมเงินเฟ้อและการกันสำรอง RRR ซึ่งมีแนวโน้มที่จะถูกเก็บไว้เป็นกระสุนสำรองเพื่อใช้ในเวลาที่เหมาะสมกว่า" ลินน์ ซ่ง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำจีนแผ่นดินใหญ่ของธนาคาร ING กล่าว
ทั้งนี้ จีนได้นำเอาข้อตกลง Reverser Repo หรือธุรกรรมซื้อหลักทรัพย์โดยมีสัญญาว่าจะขายคืน มาใช้แทนที่กลไกเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ที่สัญญาเงินกู้ราว 955,000 ล้านหยวนกำลังจะสิ้นสุดลง โดยเมื่อเดือนต.ค. 2024 แบงก์ชาติจีนได้ได้เปลี่ยนเครื่องมือทางการเงินหลักจาก MLF หันมาใช้อัตราดอกเบี้ย Reverser Repo อายุ 7 วัน เพื่อดูแลตลาดธุรกรรมกู้ยืมแทน
ทางด้านรองผู้ว่าการ PBOC ซวน ชางเหนิง กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า จีนจะใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ยและ RRR ที่จำเป็น เพื่อดูแลสภาพคล่องในระบบให้เพียงพอ
ภายหลังการดำเนินการดังกล่าว อัตราดอกเบี้ย Repo 7 วัน ซึ่งเป็นเกณฑ์อ้างอิงต้นทุนการกู้ยืมระหว่างธนาคาร ลดลง 70 BSP เหลือ 1.6% หลังจากที่ปิดตลาดสูงถึง 2.3% เมื่อวันอังคาร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2023