สหรัฐ ‘ยกระดับ’ สกัดชิป! ไม่ให้ชิป TSMC, Samsung ตกไปอยู่ในมือจีน
สหรัฐบีบคั้นจีนหนักขึ้น! ด้วยการจำกัดการส่งออกชิป 14-16 นาโนเมตร หรือเล็กกว่านั้นของ TSMC, Samsung ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือจีน และเพื่อรักษาความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของอเมริกาไว้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐเตรียมใช้ข้อบังคับเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้ “ชิปขั้นสูง” ที่ผลิตโดยบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) และของผู้ผลิตรายอื่นๆ ไหลเข้าสู่จีน ซึ่งเป็นมาตรการที่รัฐบาลไบเดนเปิดตัวในช่วงสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง
มาตรการล่าสุดนี้จะกระตุ้นให้ผู้ผลิตชิป เช่น TSMC, Samsung Electronics และ Intel เพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบลูกค้า และเพิ่มการตรวจสอบอย่างละเอียด ตามแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้เปิดเผย การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่ชิปของ TSMC ถูกเบี่ยงเส้นทางเพื่อส่งไปยังบริษัท Huawei ของจีน
ภายใต้ร่างกฎระเบียบทั้งหมด ชิปที่มีขนาด 14 หรือ 16 นาโนเมตรหรือต่ำกว่านี้ จะถูกถือว่าเป็น “ชิปที่ถูกจำกัด” ภายใต้การควบคุมแยกต่างหาก และต้องขอใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐก่อนที่จะสามารถขายในจีน และประเทศที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
เป้าหมายของระเบียบนี้คือ เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตชิปสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ลูกค้ารายใดกำลังซื้อชิปที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งอาจขัดต่อข้อกำหนดการค้าของสหรัฐ โดยพิจารณาจากจำนวนทรานซิสเตอร์ หรือสวิตช์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของชิปนั้นๆ โดยทั่วไปแล้ว ชิปที่มีขนาดนาโนเมตรเล็กกว่า จะมีความซับซ้อนมากขึ้น
ทั้งนี้ การปรับเกณฑ์จำแนกประเภทของชิปให้เป็น 14-16 นาโนเมตร จะทำให้ขอบเขตของการควบคุมชิปขยายออกไปครอบคลุมชิปประเภทต่างๆ มากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ภายใต้กฎระเบียบฉบับใหม่นี้ ลูกค้าที่ได้รับอนุมัติ และใช้ชิปที่ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ บริษัทในรายชื่อที่ได้รับการอนุมัติหรือเป็นผู้ผลิตชิปที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐ หรือประเทศพันธมิตร จะสามารถยืนยันได้ว่าชิปของตนไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมส่งออก
นอกจากนี้ หากชิปมีจำนวนทรานซิสเตอร์น้อยกว่า 30,000 ล้านตัว และผลิตโดยโรงงานที่ได้รับการรับรองตามที่ระบุในกฎระเบียบ ก็จะไม่ถือว่าเป็นชิปขั้นสูงเช่นกัน
สรุปแล้ว กฎระเบียบใหม่นี้จะมุ่งเป้าไปที่ชิปประมวลผลที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิปเร่งความเร็ว AI ซึ่งมักถูกออกแบบโดยบริษัทจีน
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์