‘สหรัฐ’ ปิดกั้นชิปไปจีนอีกรอบ 'ไทย' เสี่ยงลูกหลง! ขอใบอนุญาตเทคโนโลยียากขึ้น
‘สหรัฐ’ ยกระดับระเบียบชิปสูงขึ้นอีกรอบ มุ่งสกัดจีนให้เข้าถึงเทคโนโลยียากขึ้นกว่าเดิม ในอีกด้านก็กระทบต่อไทยด้วย ธุรกิจไทยเสี่ยงเผชิญการขอใบอนุญาตเทคโนโลยีสหรัฐที่ซับซ้อน และเข้มงวดมากขึ้น
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า อีกไม่ถึง 1 สัปดาห์ก่อนที่ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” จะอำลาตำแหน่ง ไบเดนได้ออกมาตรการควบคุมเทคโนโลยีที่เข้มงวดขึ้นอีกรอบ เพื่อไม่ให้ “จีน” เข้าถึงชิปสุดล้ำ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผ่านประเทศที่สาม
กฎระเบียบดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้หลังช่วงระยะเวลาการแสดงความคิดเห็น 120 วัน เว้นแต่รัฐบาลใหม่ภายใต้ทรัมป์จะปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกกฎ โดยกฎใหม่นี้ได้จัดประเภทปลายทางการส่งออกเป็น “3 กลุ่ม” ได้แก่ พันธมิตร และคู่ค้า, กลุ่มปฏิปักษ์ และกลุ่มอื่นๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด
จุดประสงค์หลัก คือ การจำกัดไม่ให้ประเทศในกลุ่มที่สอง ซึ่งเป็นกลุ่มปฏิปักษ์ต่อสหรัฐ ได้แก่ จีน, รัสเซีย, เกาหลีเหนือ และอิหร่าน เข้าถึงชิป AI ในศูนย์ข้อมูลนอกสหรัฐ และในพื้นที่ต่างๆ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง
ภายใต้กฎระเบียบใหม่นี้ จะไม่มีข้อจำกัดใหม่ในการขายชิปให้กับ 18 พันธมิตร และคู่ค้าหลักของสหรัฐ อันได้แก่ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์ และไต้หวัน โดยได้รับอนุญาตให้จัดสรรทรัพยากรด้าน AI ของตนสูงสุด 7% ไปยังประเทศที่สามใดๆ ก็ตาม แต่มีข้อจำกัดคือ ชิปเหล่านี้ไม่สามารถส่งไปยังประเทศที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรด้านอาวุธ เช่น เมียนมา
สำหรับประเทศส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 18 พันธมิตร และคู่ค้าดังกล่าว จำเป็นต้องขออนุญาตสหรัฐในการส่งออก การส่งออกซ้ำ และการโอนชิปภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า การยื่นขอใบอนุญาตจะได้รับการพิจารณาภายใต้การอนุมัติในเชิงสมมติฐาน
ด้วยเหตุนี้ สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย และเวียดนาม ซึ่งมีความต้องการศูนย์ข้อมูล AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็วจะอยู่ในกลุ่มนี้ หมายความว่า ประเทศเหล่านี้จะเผชิญข้อกำหนด “การขอใบอนุญาต” การส่งออกหรือนำเข้าเทคโนโลยีสหรัฐที่เข้มงวดขึ้น
“จุดประสงค์ของนโยบายนี้ คือ การทำให้จีนลักลอบนำเข้าชิปจำนวนมากเข้าประเทศอย่างลำบากมากขึ้น และช่วยสร้างแรงจูงใจให้บริษัท AI ชั้นนำ หันไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐมากขึ้นด้วย” เกร็กเกอรี อัลเลน ผู้อำนวยการของศูนย์ Wadhwani AI ที่ศูนย์ Center for Strategic and International Studies กล่าว
อย่างไรก็ตาม เนด ฟิงเคิล รองประธานฝ่ายกิจการรัฐบาลของ Nvidia เขียนในโพสต์แย้งว่า “มีความพยายามจัดการตลาด และขัดขวางการแข่งขันซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนวัตกรรม กฎใหม่ของรัฐบาลไบเดนกำลังคุกคามความได้เปรียบทางเทคโนโลยีที่สหรัฐสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก”
ด้านเรย์ หวัง นักวิเคราะห์ที่ประจำอยู่ในวอชิงตัน และเชี่ยวชาญด้านการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐกับจีนมองว่า ระเบียบใหม่นี้มีความเสี่ยงที่จะทำให้ศักยภาพทางตลาดบริษัทชิปสัญชาติอเมริกัน เช่น Nvidia และ Advanced Micro Devices ลดลง และจะผลักดันให้จีนเร่งการพัฒนาชิป AI เป็นของตนเอง
หวังเสริมอีกว่า การกลับมาของทรัมป์ และการเลือกคณะผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศที่มองจีนในเชิงรุก เช่น การเลือกไมค์ วอลซ์ ให้เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และวุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ หมายความว่า นโยบายสหรัฐในยุคทรัมป์มีแนวโน้มเป็นไปอย่างเด็ดขาด เพื่อมุ่งจำกัดความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่สำคัญของจีน
อ้างอิง: nikkei
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์