รมว.คลังสหรัฐ ชี้ ไม่มีเหตุผลที่เกิดภาวะ ‘เศรษฐกิจถดถอย’

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานถ้อยแถลงของรัฐมนตรีคลัง "สก็อตต์ เบสเซนต์" วันนี้ (19 มี.ค.) ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและไม่มีเหตุผลที่จะประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธภาระในการรับประกันว่าจะไม่มีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ "ผมไม่สามารถรับประกันอะไรได้" เบสเซนต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคารกับมาเรีย บาร์ติโรโม จาก Fox Business โดยปฏิเสธคำถามเกี่ยวกับการรับประกันว่าจะไม่มีภาวะเศรษฐกิจถดถอยว่าเป็นเรื่อง "ไร้สาระ"

ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า มีความเสี่ยงของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจบางส่วนมากขึ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขึ้น ภาษีศุลกากร ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบเมื่อมีการตัดสินใจรวมทั้งนำภาษีไปใช้ "สิ่งที่ผมสามารถรับประกันคุณได้คือไม่มีเหตุผลที่เราจำเป็นต้องเขาสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย" เบสเซนต์กล่าว

"เรากำลังเห็นข้อมูลพื้นฐานที่ดีมาก" เขากล่าว โดยชี้ให้เห็นถึงตัวเลขจากบัตรเครดิตและธนาคาร

เบสเซนต์กล่าวอีกว่า อาจมี "ชะลอลงชั่วคราว" ขณะที่เศรษฐกิจเปลี่ยนผ่านจากการพึ่งพาการใช้จ่ายของรัฐบาล เพราะรัฐบาลทรัมป์ "กำลังจะควบคุมการใช้จ่ายนี้ เรากำลังจะนำการผลิตกลับมายังสหรัฐ และจะทำให้ประเทศมีความสามารถในการจ่ายมากขึ้นสำหรับชาวอเมริกันชนชั้นแรงงาน"

ในขณะที่เขาตอบอย่างระมัดระวังว่า "ผมยังไม่เห็นตัวเลข" เกี่ยวกับภาษีตอบโต้ทางภาษีที่จะประกาศในวันที่ 2 เม.ย. แต่ก็อธิบายเสริมว่ากระบวนการจะเกี่ยวข้องกับคู่ค้าแต่ละรายที่จะได้รับภาษีศุลกากรแบบเฉพาะเจาะจง "สิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 เม.ย. แต่ละประเทศจะได้รับตัวเลขที่เราเชื่อว่าเป็นตัวแทนของภาษีศุลกากรของพวกเขา" เขากล่าว "สำหรับบางประเทศอาจจะค่อนข้างต่ำ แต่บางประเทศอาจจะค่อนข้างสูง"

เบสเซนต์ กล่าวต่อว่า บางประเทศอาจหลีกเลี่ยงภาษีตอบโต้ได้ "เพราะมีการเจรจาข้อตกลงไว้ล่วงหน้า" คู่ค้ารายอื่นอาจพยายามเจรจาลดระดับอากรหลังจากที่ได้รับตัวเลขของตัวเอง เขากล่าว รัฐมนตรีคลังยังกล่าวด้วยว่ากระทรวงของเขากำลังทำงานร่วมกับรัฐสภาเกี่ยวกับกฎหมายที่จำกัดการลงทุนขาออกไปยังจีนเพิ่มเติม

ในปี 2024 รัฐบาลไบเดนออก คำสั่งของฝ่ายบริหาร (Executive Order) ที่กำหนดให้มีการตรวจสอบและรายงานการลงทุนบางส่วนของสหรัฐในจีน แต่นักการเมืองในรัฐสภาที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีนกำลังผลักดันให้กระทรวงการคลังทำมากกว่านี้ "เราจะแน่ใจว่าการลงทุนขาออกของเราจะไม่ถูกนำกลับมาใช้ต่อต้านเรา" เบสเซนต์กล่าว "เรากำลังจะดำเนินการสืบสวนต่อไปและในกรณีที่จำเป็นก็จะปิดกั้นมัน"

อ้างอิง: Bloomberg