หน่วยงานรัฐปิดตัวกระทบตลาดบ้านสหรัฐ

การหยุดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐจะเริ่มส่งผลต่อการอนุมัติสินเชื่อเพื่อการจดจำนองในเร็ว ๆ นี้ และอาจคุกคามการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย หากยังหยุดทำการต่อเนื่องเกินกลางเดือนตุลาคม

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหลายพันคนต้องถูกพักงาน สถาบันการเงินจึงไม่สามารถตรวจสอบรายได้และข้อมูลอื่น ๆ ของผู้กู้ จากสำนักงานสรรพากรและสำนักงานประกันสังคมได้ ทำให้การอนุมัติเงินกู้กลายเป็นเรื่องยาก ผนวกกับลูกค้าที่มีศักยภาพจำนวนหนึ่งที่ถูกพักงานและสูญเสียรายได้ไป รวมถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการหยุดทำการของรัฐบาล

ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลเสียถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย ที่อ่อนตัวลงเล็กน้อยไปแล้วเนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น

เค้าลางว่าสภาคองเกรสจะต้องเผชิญหน้ากันเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ภายในกลางเดือนนี้อาจเพิ่มความปั่นป่วน หากนักลงทุนเริ่มวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น

การปิดหน่วยงานยังทำให้ผู้กู้ที่รอการรับประกันจดจำนองจากสมาคมที่อยู่อาศัยรัฐบาลกลางสหรัฐ (เอฟเอชเอ) ซึ่งสนับสนุนประมาณ 15% ของเงินกู้ใหม่ ต้องรอนานขึ้นอีก เพราะเจ้าหน้าที่เอฟเอชเอจำนวน 2,972 คน มาทำงานเพียง 64 คน และมีราว 30 คนที่จัดการเรื่องการสนับสนุนสินเชื่อ และที่อยู่อาศัยของครอบครัวเดี่ยว

นายไบรอัน คอส รองประธานบริษัทมอร์เกจ เน็ทเวิร์ก สถาบันการเงินรายย่อยในเดนเวอร์ส แมสซาชูเซตส์ กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผู้ให้กู้มองว่าธุรกิจเริ่มชะลอลงเล็กน้อย การเลื่อนรับประกันจดจำนองอาจเป็นเหตุให้เกิดแรงกระเพื่อมมากขึ้น

นายคอสกล่าวว่า บริษัทของเขาใช้เวลาสองสัปดาห์วางแผนรับมือการที่รัฐบาลต้องหยุดทำงาน โดยเร่งเตรียมเอกสารที่จำเป็นเพื่อปิดสินเชื่อบ้าน แต่ถ้ารัฐบาลหยุดทำงานเป็นเวลานาน เอฟเอชเอมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอที่จะตรวจสอบข้อมูลผู้ซื้อบ้าน การอนุมัติสินเชื่อจำนวนหนึ่งอาจต้องล่าช้าไป