รบ.เมียนมาสั่งเรียก'ปชช.ผู้เชื่อในศาสนาอิสลาม' แทน 'โรฮิงญา'
รบ.เมียนมา ออกเอกสาร สั่งให้จนท.เมียนมาทุกคน ใช้คำเรียกชาว "โรฮิงญา" ชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อยของประเทศ ด้วยคำว่า "ประชาชนผู้เชื่อในศาสนาอิสลาม"
ทั้งนี้ เอกสารของกระทรวงสารสนเทศเมียนมามีขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและความไม่สงบระหว่างการเดินทางเยือนของนางยางฮี ลี ผู้เสนอรายงานการประชุมพิเศษสหประชาชาติประจำเมียนมา โดยเอกสาร ซึ่งลงนามวันที่ 16 มิถุนายน และตีตราว่าเป็นเอกสารลับระบุว่า ระหว่างการเดินทางเยือนของนางยางฮี จะไม่มีการเรียกขานชาวโรฮิงญา หรือชาวเบงกาลี แต่จะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "ประชาชนผู้เชื่อในศาสนาอิสลามในรัฐยะไข่” แทน และเรียกชาวพื้นเมืองยะไข่ว่า “ประชาชนผู้เชื่อในศาสนาพุทธในรัฐยะไข่”
เมื่อปีที่แล้ว การเดินทางเยือนของนางยางฮี ถูกทำลายจากพระวิระธู พระสงฆ์หัวสุดโต่งในเมียนมาที่ออกมาเรียกเธอว่าเป็น “โสเภณี” หลังจากเธอวิจารณ์การปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญาของชาวเมียนมา
ทั้งนี้ ชาวโรฮิงญาหลายรายเสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงเมื่อปี 2557 และส่งผลให้ชาวโรฮิงญาจำนวนหลายหมื่นคนต้องเข้าไปอยู่อาศัยในค่ายผู้พลัดถิ่นที่รัฐยะไข่ โดยพวกเขาถูกห้ามเดินทาง และประสบปัญหาในการเข้าถึงการศึกษาและการดูแลสุขภาพพื้นฐาน
รายงานสหประชาชาติหรือยูเอ็น ระบุว่า ชาวโรฮิงญาตกเป็นเหยื่อของเครื่อข่ายความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัฐ รวมถึงการประหารชีวิต บังคับสูญหาย กักขังตามอำเภอใจ ถูกทรมาน ถูกปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยม และถูกบังคับให้ใช้แรงงาน