จีนประท้วงสหรัฐหลังถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า
นายลู่ กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงต่อต้านสหรัฐ หลังจากทำเนียบขาวประกาศบัญชีรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% วงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์
นายลู่ระบุว่า “ผมขอย้ำว่า ที่ผ่านมานั้นจีนและสหรัฐได้มีการเจรจากันแล้วหลายรอบ ด้วยความพยายามที่จะประสานมุมมองที่แตกต่างและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ทางสหรัฐได้จุดชนวนสงครามการค้าขึ้นมาในครั้งนี้ โดยไม่คำนึงถึงฉันทามติที่ทั้งสองประเทศได้ทำร่วมกัน การกระทำของสหรัฐในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อทั้งสองประเทศ แต่จะสร้างความเสียหายต่อระบบการค้าทั่วโลกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนต่อต้านอย่างรุนแรง”
“จีนไม่ต้องการทำสงครามการค้า แต่การที่จีนถูกดำเนินมาตรการในครั้งนี้ ทำให้จีนไม่มีทางเลือก และจำเป็นต้องใช้มาตรการตอบโต้อย่างรุนแรง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และเพื่อปกป้องระบบโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจและการค้าพหุภาคี” นายลู่ กล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐสภาจีน และคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการศุลกากรแห่งรัฐสภาจีน ได้ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ อัตราภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐล็อตแรกจำนวน 545 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสินค้าด้านการเกษตร ยานยนต์ และสินค้าทางทะเล โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ส่วนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจำนวนที่เหลือนั้น จะมีการประกาศหลังจากนั้น
ความเคลื่อนไหวของจีนมีขึ้นหลังจากทำเนียบขาวประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษี 25% เพื่อตอบโต้การที่จีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ
สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) แถลงว่า อัตราภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ต่อสินค้าจำนวน 1,100 รายการของจีน โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 818 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จะถูกเรียกเก็บภาษีในวันที่ 6 ก.ค. ขณะที่สินค้าล็อตที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา