กังวลพายุเฮอริเคนฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

กังวลพายุเฮอริเคนฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

ขณะนี้ สหรัฐและจีนตอบโต้กันด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าแต่ละฝ่ายในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว นับตั้งแต่เดือนก.ค. ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้ารุนแรงขึ้น แม้มีการเจรจาแก้ไขข้อพิพาททางการค้าหลายรอบ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันจันทร์ (10ก.ย.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลงเหตุนักลงทุนกังวลว่าอิทธิพลของพายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ที่คาดว่าจะพักเข้าแถบอีสต์โคสต์ของสหรัฐ มีความรุนแรงระดับ4 จะก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจ  

ทั้งนี้ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง  59.47 จุดหรือ 0.23 % ปิดที่ 25,857.07 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 ขยับขึ้น 5.45 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 2,877.13 จุด และดัชนีแนสแด็กบวก  21.62 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 7,924.16 จุด

อย่างไรก็ตาม  นอกจากจะมีปัจจัยลบเรื่องพายุเฮอริเคนฟลอเรนซ์ที่กดดันดัชนีดาวโจนส์แล้ว นักลงทุนยังวิตกกังวลหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ อีกทั้งดาวโจนส์ยังถูกกดดัน หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเกินคาด รวมทั้งตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของแรงงานที่พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 9 ปี ซึ่งส่งผลให้กังวลว่าเฟด จะเร่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนจะตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้าจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่วงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากที่มีแผนเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์

ขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตาท่าทีของปธน.ทรัมป์ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์เมื่อใด หลังจากผ่านพ้นกำหนดเส้นตายในวันที่ 6 ก.ย.สำหรับการทำประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆของสหรัฐต่อมาตรการดังกล่าว

“หากสหรัฐเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนครั้งใหม่ จีนก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดำเนินการตอบโต้เพื่อใช้สิทธิอันชอบธรรมของเรา” นายเกิง กล่าว