เปิดกลยุทธมัดใจเพื่อนบ้าน"ลาว-เมียนมา"
นายบรรณสาร จันทร์สมศักดิ์ เลขาธิการสมาคมไทย-พม่า เพื่อมิตรภาพและสมาคมไทย-ลาว เพื่อมิตรภาพ ได้ฉายภาพสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยกับสองประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาและลาว ผ่านการมอบโอกาสด้านการศึกษาและการให้ความช่วยเหลือในยามวิกฤต
ทั้ง2สมาคมฯได้ทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบโอกาสด้านการศึกษาและให้การช่วยเหลือด้านต่างๆทั้งในเมียนมาและในลาว โดยเฉพาะในลาว เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา สมาคมฯได้ส่งมอบอาคารเรียน 2 ชั้น 16 ห้องเรียน แก่โรงเรียนมัธยมตอนต้นนาซอน เมืองสบเบา แขวงหัวพัน และนักเรียนสามารถใช้ห้องเรียนใหม่ของอาคารหลังนี้ได้ในการเปิดภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษา 2561 เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2561 ได้เลย
การก่อสร้างอาคารเรียนหลังนี้ เป็นการสนับสนุนงบประมาณจากภาคเอกชนไทยและลาว มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันตอบแทนสังคมในรูปแบบของการสนับสนุนด้านการศึกษาให้แก่เยาวชนลาว โดยบริษัทที่ให้การสนับสนุนงบประมาณ ประกอบด้วยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัทเบียร์ลาว จำกัด บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว และบริษัท ลาวโตโยต้า บริการ จำกัด
ในส่วนของห้องสมุดและคอมพิวเตอร์ ได้รับการสนับสนุนจากกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
“ผมคิดว่าทั้งเมียนมาและลาว สิ่งที่ยังถือว่ามีความขาดแคลนอยู่คือ การศึกษา ผมช่วยระบบการศึกษาเขาไม่ได้ แต่ผมช่วยจัดหาอุปกรณ์ หรือช่วยสร้างโรงเรียนให้พวกเขาได้ เมียนมาและลาวจะเหมือนกันตรงที่มีหลายชาติพันธุ์ บางพื้นที่ๆผมไปสร้างโรงเรียนที่อยู่ในวัดและวัดนี้อยู่ในเมืองสาละวัน จำนวน 8 ห้องเรียน ชาวบ้านไม่ได้นับถือศาสนาพุทธเลย พวกเขานับถือผี และภาษาที่ใช้สื่อสารก็ไม่ใช่ภาษาลาวที่เป็นทางการ แต่เป็นภาษาถิ่นของพวกเขาเอง ผมจึงใช้วิธีว่า ใครไม่มีเงินแต่อยากเรียนหนังสือต้องบวชเป็นพระ ซึ่งทำให้พวกเขาได้เรียนภาษาลาวที่เป็นทางการและก็หันมานับถือศาสนาพุทธด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ สร้างความพอใจให้แก่รัฐบาลลาวมาก”นายบรรณสาร กล่าว
เลขาธิการผู้ดูแลทั้ง2สมาคมฯ กล่าวด้วยว่า สมาคมฯยังให้ความช่วยเหลือแก่ลาวในยามที่ประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้เผชิญวิกฤตน้ำท่วมฉับพลันจากเขื่อนแตกเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาโดยร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดดนตรีการกุศลเพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือจำนวน 5,053,888 บาท ตลอดจนสถานกงสุลใหญ่ ณ. สะหวันนะเขต ได้ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่เพื่อนำส่งความช่วยเหลือให้ถึงพื้นที่ รวมทั้งร่วมกับบริษัทและประชาชนไทยในแขวงภาคใต้ของ สปป. ลาว มอบสิ่งของยังชีพมูลค่า 100,000 บาท เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2561 ด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ยังประสานกับภาคส่วนต่าง ๆ ของไทยส่งมอบความช่วยเหลือ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ. เวียงจันทน์ ร่วมกับบริษัทและประชาชนไทยที่อาศัยใน สปป. ลาว ได้รวบรวมเงินบริจาคส่งมอบครั้งแรก จำนวน 1,300,000 บาท และ 26,000,000 กีบ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. และครั้งที่ 2 จำนวน 2,228,000 บาท เมื่อวันที่ 3 ส.ค.