หัวเว่ยพร้อมขายชิพ 5 จีให้แอ๊ปเปิ้ล
ซีอีโอหัวเว่ยเผยกับสื่อสหรัฐ พร้อมขายชิพ 5 จี และชิพซิลิคอนอื่นๆ ให้กับคู่แข่งอย่างแอ๊ปเปิ้ล ยกย่องเป็นบริษัทยิ่งใหญ่
นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ บริษัทใหญ่ของจีน ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี ออกอากาศวันจันทร์ (15 เม.ย.) ตามเวลาสหรัฐว่า หัวเว่ยจะพิจารณาขายชิพ 5 จีให้กับคู่แข่งอย่างแอ๊ปเปิ้ล
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า แอ๊ปเปิ้ลไม่ได้สนใจชิพคิริน 980 ของหัวเว่ยเพราะมีของตนเองแล้ว แต่อาจสนใจชิพ 5 จี
แอ๊ปเปิ้ล ไม่ได้เปิดตัวคุณสมบัติที่รองรับ 5 จี ก่อนหน้านี้ไอโฟนของแอ๊ปเปิ้ลใช้โมเด็มจากควอลคอมม์และอินเทล แต่สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดใช้ชิพซิลิคอนจากอินเทลเท่านั้น หลังจากแอ๊ปเปิ้ลและควอลคอมม์ฟ้องร้องกันยาวนานเรื่องสิทธิบัตร
ควอลคอมม์ มีโมเด็มรองรับ 5จี ขณะที่สินค้าของอินเทลต้องรอถึงปี 2563 กว่าจะวางตลาด เท่ากับว่าหัวเว่ยจึงเป็นตัวเลือกไปได้มากที่สุดหากแอ๊ปเปิ้ลต้องการเปิดตัวโทรศัพท์ 5 จีในปีนี้
อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยกำลังเผชิญแรงกดดันทางการเมืองมหาศาล โดยเฉพาะจากสหรัฐที่กล่าวว่า หัวเว่ยเป็นภัยต่อความมั่นคง เนื่องจากบริษัทอาจล้วงข้อมูลให้รัฐบาลจีน นอกจากนี้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของสหรัฐก็ไม่ขายโทรศัพท์หัวเว่ย ทำให้สินค้ามีขายน้อยมาก
ระหว่างให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซี นายเหรินยกย่องแอ๊ปเปิ้ลว่าเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ และสตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้งก็เป็นบุรุษผู้ยิ่งใหญ่
“คุณจ็อบส์สุดยอดมาก ไม่ใช่เพราะเขาสร้างแอ๊ปเปิ้ล แต่เพราะเขาสร้างยุคสมัย ยุคของอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ พูดว่าเขาสุดยอดก็ยังน้อยไป ผมคิดว่า เขาเป็นอภิมหาสุดยอดเลยทีเดียว”
ซีอีโอหัวเว่ย ยังเล่าเรื่องของแอนนาเบล เหยา ลูกสาวคนเล็ก อาลัยต่อการจากไปของจ็อบส์ เมื่อปี 2554
“ตอนคุณจ็อบส์เสียชีวิต ผมพักผ่อนอยู่บนภูเขากับครอบครัว ลูกสาวคนเล็กชื่นชอบคุณจ็อบส์มาก บอกว่า เราควรสงบนิ่งไว้อาลัยให้เขาซึ่งพวกเราก็ทำ”
หัวเว่ยพยายามแย่งลูกค้ากับแอ๊ปเปิ้ล และปีที่แล้วถึงขนาดแย่งส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนไปได้แล้วด้วยปัจจุบันหัวเว่ยมีส่วนแบ่งตลาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
เส้นทางของบริษัทเริ่มต้นจากขายโทรศัพท์มือถือราคาถูก แต่ช่วงไม่กี่ปีหลังเปลี่ยนไปเน้นการเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดไฮเอนด์ ห้ำหั่นกับแอ๊ปเปิ้ลและซังซุง ส่วนหนึ่งหัวเว่ยใช้การพัฒนาชิพ โมเด็ม และโปรเซสเซอร์สำหรับเชื่อมต่อ 5จีในสมาร์ทโฟน
ด้านแอ๊ปเปิ้ลยังไม่ให้ความเห็นกับซีเอ็นบีซี กรณีที่ซีอีโอหัวเว่ยกล่าวถึง