กาแฟจีนคู่แข่งสตาร์บัคส์ทำไอพีโอตลาดสหรัฐ

ลัคกิ้นคอฟฟี เครือร้านกาแฟจีนยื่นขอเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (เอสอีซี) แสดงความจำนงนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์แอลเคบนกระดานแนสแด็คโดยในขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดราคาไอพีโอและไม่ได้เปิดเผยจำนวนหุ้นที่จะนำมาเสนอขาย

สตาร์ทอัพร้านกาแฟรายนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2560 นับถึงวันที่ 31 มี.ค. มี 2,370 สาขา เน้นบริการลูกค้าแบบ “แกร็บแอนด์โก”ด้วยบริการสั่งกาแฟผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน รวมถึงระบบการส่งกาแฟชนิดเลือกรับเองหรือจัดส่งถึงบ้านหรือสำนักงานจูงใจด้วยคูปองลดแลกแจกแถมนานาชนิดดึงให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการบ่อยครั้ง

กลยุทธ์เชิงรุกแบบนี้สะท้อนถึงยุทธวิธีที่สตาร์ทอัพจีนนิยมใช้ จนสามารถโค่นแบรนด์ตะวันตกในแดนมังกร ที่ได้ชื่อว่าเป็นตลาดผู้บริโภคใหญ่สุดแห่งหนึ่งของโลกได้

สำหรับตลาดกาแฟ ขณะนี้ชาวจีนนิยมดื่มกาแฟกันมาก ปี 2561 เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่ามาอยู่ที่ 8.7 พันล้านแก้ว จาก 4.4 พันล้านแก้วในปี 2556

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการขยายตัวและรุกทำตลาดเป็นเหตุให้บริษัทขาดทุนมากใน 18 เดือนที่ทำธุรกิจ ปีที่แล้วขาดทุน 241 ล้านดอลลาร์จากยอดขาย 125 ล้านดอลลาร์

ในไตรมาสแรก ต้นทุนโฆษณา แจกกาแฟฟรี และการตลาดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ 23.8 หยวนต่อลูกค้าใหม่ 1 คน ลดลงจาก 119.3 หยวนในช่วงเดียวกันของปี 2561

การขยายกิจการของลัคกิ้นได้เงินสนับสนุนจากกลุ่มนักลงทุน รวมถึงเซ็นเทอเรียมแคปิตัล กองทุนหุ้นนอกตลาดก่อตั้งโดยอดีตประธานบริษัทวอร์เบิร์ก พินคัส และจอยแคปิตัล

นายชาลส์ เจิ้งเหยา หลู่ ผู้ก่อตั้งลัคกิ้นเคยตั้งซีเออาร์อิงค์ หนึ่งในบริษัทรถเช่าใหญ่สุดรายหนึ่งของจีน

ปีนี้  ลัคกิ้นมีแผนเปิด 2,500 สาขาและโค่นสตาร์บัคส์ ขึ้นมาเป็นเครือร้านกาแฟใหญ่สุดของจีนให้ได้แดนมังกรเป็นตลาดโตเร็วที่สุดของสตาร์บัคส์ และใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสหรัฐ