‘เออาร์เอฟ’ เห็นพ้องให้ 'เกาหลีเหนือ' ปลดอาวุธฯ
ดอน เผย เวทีเออาร์เอฟ ถกยิบสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี ยันไม่กดดัน แต่เห็นพ้องให้ปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี และการเจรจาระดับผู้นำเกิดขึ้นอีกครั้ง
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก (อาร์เอฟ) ครั้งที่ 26 ว่า การประชุมครั้งนี้มีรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่นเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย รัสเซีย และสหรัฐเข้าร่วม ขณะที่เกาหลีเหนือส่งนายคิม เช พง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือ ประจำประเทศไทยเป็นผู้แทน โดยที่ทางเกาหลีเหนือก็ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือไม่เดินทางมาร่วมประชุมด้วยตัวเอง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการพูดถึงสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี และประเทศสมาชิกก็ได้แสดงความคิดเห็นในมุมมองของตนเองอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ นายดอนระบุว่า ในการประชุมเออาร์เอฟ เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือเลือกที่จะไม่พูดอะไรมาก และเป็นผู้ฟังที่ดี โดยพวกเราเข้าใจกันดีว่า เป็นกรอบแนวทางปฏิบัติที่นักการทูตจะทำได้ ขณะเดียวกัน ที่ประชุมเออาร์เอฟก็ไม่ได้ฝากข้อความอะไรเป็นพิเศษไปยังเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือไปถึงผู้นำของเค้าแต่อย่างใด แต่ที่ประชุมเห็นพ้องร่วมกันให้มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี และสนับสนุนให้มีการพบปะกันระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยที่ประเทศสมาชิกต่างให้กำลังใจ และอยากเห็นผลลัพธ์ในทางบวก
"ในการประชุมเออาร์เอฟครั้งนี้ ไม่เคยมีผลบังคับให้มีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพียงแต่เออาร์เอฟเป็นเวทีแสดงความคิดเห็นแบบเปิดกว้าง ในประเด็นที่เกี่ยวกับการเมืองและความมั่นคง รวมไปถึงประเด็นที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน นี่เป็นอัตลักษณ์ของเออาร์เอฟ และเชื่อว่า การเปิดพื้นที่ให้ผู้เกี่ยวข้องได้หารือและแสดงความคิดเห็น จะนำไปสู่ความเข้าใจ นำไปสู่สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีดีขึ้น" นายดอนกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อหาทางส่งเสริมการสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืน ความมั่นคงของมนุษย์ และ ความมั่นคงทางทะเล บนพื้นฐานของวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนความยั่งยืน รวมทั้งที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นในภูมิภาค ข้อปัญหาการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ สถานการณ์ในรัฐยะไข่ และทะเลจีนใต้ โดยที่ประชุมยังมุ่งเน้นจะส่งเสริมความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย การต่อต้านแนวคิดสุดโต่ง อาชญากรรมข้ามชาติ การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติปี 2573
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ปรับปรุงเอกสารวิสัยทัศน์เออาร์เอฟ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการหารือเกี่ยวกับความท้าทายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับระหว่างประเทศ รวมทั้งยังได้รับรองเอกสาร 3 ฉบับ ได้แก่ 1.แถลงการณ์เออาร์เอฟ ว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางการบิน 2.แถลงการณ์ว่าด้วยการส่งเสริมวาระสตรี สันติภาพ และความมั่นคงในเออาร์เอฟ และ 3.แถลงการณ์เออาร์เอฟ ว่าด้วยการป้องกันและการต่อต้านการก่อการร้าย และความรุนแรงที่จะนำไปสู่การก่อการร้าย และแผนงานว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติปี 2562 - 2564