กูรูหั่นจีดีพี ‘สิงคโปร์’ แตะ0.6% ปีนี้
บรรดานักเศรษฐศาสตร์หั่นคาดการณ์การเติบโตของสิงคโปร์เหลือ 0.6% ในปีนี้ หลังข้อมูลเศรษฐกิจหลายด้านซบเซา ผลจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าสหรัฐ-จีน การประท้วงในฮ่องกง และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ธนาคารกลางสิงคโปร์ (เอ็มเอเอส) เผยผลสำรวจความเห็นรายไตรมาสจากนักเศรษฐศาสตร์มืออาชีพ 23 คนที่จับตาเศรษฐกิจสิงคโปร์อย่างใกล้ชิด พบว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์เอกชนเหล่านี้คาดว่าการเติบโตของสิงคโปร์จะอยู่ที่ 0.6% ในปีนี้ ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ย2.1% ในผลสำรวจครั้งก่อน
ในบรรดาอุตสาหกรรมสำคัญของเศรษฐกิจสิงคโปร์ ภาคค้าส่งและค้าปลีกมีแนวโน้มหดตัวลง 2.8% ในปีนี้ แย่กว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนซึ่งคาดว่าจะหดตัวลง 0.3% ขณะเดียวกัน ภาคการผลิตน่าจะหดตัวลง 2.4% เลวร้ายกว่าที่คาดว่าจะลดลง 0.2% ในการสำรวจครั้งก่อน
สำหรับปีหน้า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ มีแนวโน้มขยายตัว 1.6% ลดลงจาก 2.3% ที่คาดการณ์ไว้ในผลสำรวจเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
“ความตึงเครียดทางการค้าที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐกับจีน เป็นปัจจัยอันดับ 1 อีกครั้งของความเสี่ยงขาลงในมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ที่ตอบผลสำรวจ” ธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุในรายงาน และชี้ว่า ภาวะชะลอตัวมากขึ้นในจีนก็เป็นอีกเรื่องที่น่าวิตก
นอกจากนั้น เอ็มเอเอสระบุว่าความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์การเมืองในพื้นที่อย่างฮ่องกงและอ่าวเปอร์เซีย ยังถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงขาลงเช่นกันสำหรับผู้ตอบแบบสำรวจ 38.9% เพิ่มขึ้นจากเพียง 5.9% ในการสำรวจครั้งก่อน
สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงที่สุดต่อภาวะชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (3 ก.ย.) ชี้ว่า กิจกรรมภาคการผลิตในสิงคโปร์หดตัวเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่ข้อมูลจีดีพีเมื่อเดือนที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเติบโตเพียง 0.1% ในไตรมาส 2 เทียบกับปีที่แล้วชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดวิกฤติการเงินโลก
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสิงคโปร์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของประเทศในปีนี้ มาอยู่ที่ระหว่าง 0-1% จากการคาดการณ์ครั้งก่อนซึ่งอยู่ระหว่าง 1.5-2.5%