ส่อง 'แหล่งผลิตน้ำมัน' รายใหญ่สุดของโลก
ขณะนี้สถานการณ์น้ำมันดิบโลกค่อนข่างอยู่ในภาวะตึงเครียด จากกรณีโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกและบ่อน้ำมันสำคัญของซาอุดีอาระเบีย ถูกโดรน 10 ลำโจมตี ในช่วงเช้าของวันเสาร์ (14 ก.ย.)
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะยานขึ้นทันทีประมาณ 15-20% ถือเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุด นับตั้งแต่สงครามอ่าวเปอร์เซีย เมื่อ 28-29 ปีก่อน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทหารตอบโต้อิหร่าน เพราะสหรัฐมั่นใจว่า จริง ๆ แล้วอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุฯ
ส่วนประเทศที่นำเข้าน้ำมันรายใหญ่จากซาอุฯ อย่างจีน และเกาหลีใต้ ก็มีมาตรการรองรับผลกระทบจากการลดกำลังการผลิตน้่ำมันดิบของซาอุฯ โดยจีน มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองฉุกเฉินประมาณ 325 ล้านบาร์เรล เพียงพอที่จะนำมาใช้ได้ 33 วัน
ส่วนเกาหลีใต้ คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่ก็ไม่ได้ประมาท รัฐบาลโซลกำลังพิจารณาที่จะใช้น้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ 96 ล้านบาร์เรล เท่ากับมีน้ำมันดิบใช้ 90 วัน หากการจัดหาน้ำมันดิบของประเทศเกิดปัญหา
อยากให้ปัญหาขัดแย้งทางการเมืองในตะวันออกกลางจบลงในเร็ววัน และไม่มีการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันรอบใหม่จากกลุ่มกบฎฮูตี มิฉะนั้นจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่ซึม ๆ อยู่แล้วให้ซวนเซหนักขึ้น