ศาลฮ่องกงชี้คำสั่งแบนสวมหน้ากากชุมนุม 'ขัดรธน.'

ศาลสูงของฮ่องกงมีคำพิพากษาในวันนี้ (18 พ.ย.) ว่า การที่คณะผู้บริหารของนางแคร์รี หล่ำ ใช้อำนาจพิเศษเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปี เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา สั่งห้ามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลสวมหน้ากากและเครื่องปิดบังใบหน้าทุกประเภท รวมถึงห้ามระบายสีบนใบหน้า หากใครฝ่าฝืนอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี พร้อมปรับเงินอีกสูงสุด 25,000 ดอลลาร์ฮ่องกงนั้น เป็นการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารที่ "ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ" และเป็นการจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานที่ "เกินความจำเป็นอย่างสมเหตุสมผล"

อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาของศาลไม่ได้ระบุชัดเจนว่า หากฮ่องกงเผชิญกับ "สถานการณ์ฉุกเฉิน" อำนาจดังกล่าวถือว่า "เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ" หรือไม่ แต่ศาลประกาศคำพิพากษาดังกล่าวเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนผู้ประท้วง 2 คนเป็นกลุ่มแรกซึ่งเตรียมรับการไต่สวนจากศาลในข้อหาละเมิดอำนาจพิเศษเรื่องการสวมหน้ากาก ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน

นอกจากนี้ ศาลยังมีกำหนดประกาศคำพิพากษาในวันพุธนี้ (20 พ.ย.) เกี่ยวกับระเบียบการยื่นคำร้องเรียกค่าชดเชยจากภาครัฐ หากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมจากเรื่องนี้

คดีดังกล่าวซึ่งยื่นฟ้องโดยกลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคฝ่ายค้าน 25 คน เป็นเพียงคดีแรกจากทั้งหมด 6 คดีที่มีผู้ฟ้องร้องคณะผู้บริหารฮ่องกง

อ่านข่าว-ตำรวจฮ่องกงขู่ใช้กระสุนจริงเช้านี้หลังปะทะเดือดม็อบ