หุ้นเอเชียปิดแดนลบหลัง ‘ทรัมป์’ กระตุกหนวดมังกร
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่พากันปิดแดนลบในวันนี้ (28 พ.ย.) หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” เซ็นกฎหมายสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกงที่อาจทำลายบรรยากาศการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
บรรดานักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ไม่แน่นอนในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามกฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งจีนได้แถลงคัดค้านการออกกฎหมายดังกล่าวแล้ว
ความกังวลดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวของญี่ปุ่น ปิดลบ 28.63 จุด หรือ -0.12% แตะที่ 23,409.14 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ปิดลดลง 13.50 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 2,889.69 จุด ดัชนีคอสปี ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดลบ 9.25 จุด หรือ 0.43% แตะที่ 2,118.60 จุด และดัชนีหั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดลดลง 60.27 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 26,893.73 จุด
เมื่อวันพุธ (27 พ.ย.) ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) โดยกฎหมายดังกล่าวจะคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบในการทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานและการปกครองตนเองในฮ่องกง
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายจะกำหนดให้มีการทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ โดยการทบทวนดังกล่าวจะพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ฮ่องกงได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอจากจีนหรือไม่
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงวันนี้ว่า รัฐบาลปักกิ่งไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาดที่สหรัฐลงนามร่างกฎหมายสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง
“เราขอให้สหรัฐหยุดกระทำการโดยพลการ มิเช่นนั้นจีนจะดำเนินการตอบโต้ ซึ่งสหรัฐจะต้องรับผลจากการกระทำของตัวเอง”
จีนยังเน้นย้ำด้วยว่า ฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีนตามนโยบาย หนึ่งประเทศ สองระบบ และเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในฮ่องกงถือเป็นเรื่องภายในประเทศ
ในวันเดียวกัน นายเล่อ หยู่เฉิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้เรียกนายเทอร์รี แบรนสตัด เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่ง เข้าพบเพื่อประท้วงการลงนามกฎหมายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงของนายทรัมป์ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตันเลี่ยงบังคับใช้กฎหมายนี้ เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศบาดหมางไปมากกว่านี้