ออสเตรเลียสูญรายได้ท่องเที่ยวเฉียดแสนล้านเพราะ ‘ไฟป่า’

สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวออสเตรเลีย หรือเอทีอีซี (ATEC) คาดการณ์ว่า จำนวนนักเดินทางเข้าออสเตรเลียลดลง 10-20% นับตั้งแต่เริ่มเกิดไฟป่าในเดือน ก.ย. 2562 และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจประเทศราว 4,500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 9.46 หมื่นล้านบาทในปีนี้

“ผู้มาเยือนจากต่างประเทศพากันยกเลิกทริปในออสเตรเลีย เพราะกลัวเรื่องคุณภาพอากาศ ความปลอดภัย และผลกระทบไฟป่าที่มีต่อการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับการขาดความชัดเจนว่าเราจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะฟื้นตัวจากวิกฤตินี้” นายปีเตอร์ เชลลีย์ กรรมการผู้จัดการของเอทีอีซี กล่าว

สื่อทั่วโลกต่างรายงานเกาะติดสถานการณ์ไฟป่าในออสเตรเลีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คน เผาทำลายพื้นที่ขนาดเท่ากับประเทศโปรตุเกส และทำให้เกิดควันพิษปกคลุมเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างซิดนีย์และเมลเบิร์น

เอทีอีซีระบุว่า ภัยธรรมชาตินี้ส่งผลกระทบหนักที่สุดต่อการเดินทางจากสหรัฐ สหราชอาณาจักร และยุโรป ซึ่งชนกับช่วงไฮซีซั่นเดือน ธ.ค.-ก.พ. ที่ปกติอัตราการจองทริปของนักท่องเที่ยวจากตลาดเหล่านี้จะสูงขึ้น 50%

นายเชลลีย์เผยว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและรัฐบาลออสเตรเลียจำเป็นต้องเร่งประชาสัมพันธ์โดยเร็วว่า ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกหลายแห่งที่ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเราจะได้รับผลกระทบ ยิ่งเราสามารถสื่อสารข้อความที่หนักแน่นและแง่บวกได้มากเท่าไหร่ สถานการณ์ก็จะดีขึ้นเท่านั้น”

รัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมของออสเตรเลียซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการตอบสนองวิกฤติไฟป่าและภาวะโลกร้อนที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเป็นตัวแปรสำคัญของวิกฤตินี้ ได้ประกาศแผนฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูไฟป่ามูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

ขณะที่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวในวันนี้ (17 ม.ค.) ว่า แผนดังกล่าวจะครอบคลุมการกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วย โดยจะเปิดเผยรายละเอียดในสัปดาห์หน้า