ชีวิตรันทด‘ชาวโสมแดงแปรพักตร์’

ตอนนี้ผู้ชมชาวไทยที่ติดตามซีรีส์เกาหลีเรื่อง Crash Landing on You ออกอากาศทางเน็ตฟลิกซ์ ต่างกำลังลุ้นให้สหายผู้กองจากกองทัพเกาหลีเหนือสมหวังในรักกับซีอีโอสาวชาวเกาหลีใต้ ที่เล่นร่มร่อนแต่ถูกพายุพัดไปตกในฝั่งโสมแดงจนพบกับผู้กองเข้าโดยอุบัติเหตุ ความรักของทั้งคู่จะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่องนายทหารเกาหลีเหนือแปรพักตร์มาอยู่เกาหลีใต้ แต่ความจริงไม่ใช่เป็นเช่นนั้นเมื่อกระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้แถลงข้อมูลล่าสุดพบว่า จำนวนชาวโสมแดงที่แปรพักตร์มาอยู่กับโสมขาวเมื่อปี 2562 ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 20 ปี เนื่องจากรัฐบาลเปียงยางควบคุมเข้มงวด ส่งผลให้ปี 2562 ชาวเกาหลีเหนือเข้ามาอยู่ในเกาหลีใต้ราว 1,047 คน ลดจาก 1,137 คนในปี 2561 ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2544 ตัวเลขนี้นับเฉพาะคนที่เดินทางมาถึงเกาหลีใต้ ไม่เกี่ยวกับคนที่ออกจากเกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือที่ยากจนอยู่แล้ว มีปัญหาขาดแคลนอาหารต่อเนื่อง ทั้งยังถูกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติคว่ำบาตรเพราะทำโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนใหญ่คนที่หนีออกมาจะไปจีนก่อน และอาจต้องอยู่ที่นั่นนานหลายปีก่อนจะมาเกาหลีใต้โดยเดินทางผ่านประเทศที่ 3

ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ชาวเกาหลีเหนือปันใจมาอยู่เกาหลีใต้แล้วกว่า 33,500 คน นับตั้งแต่ปี 2491 ที่เกาหลีถูกแบ่งเป็นสองประเทศ

ปี 2552 ชาวโสมแดงเข้ามามากที่่สุด 2,914 คน แต่จำนวนลดลงนับตั้งแต่คิม จอง อึน เป็นผู้นำช่วงปลายปี 2554

อันห์ ชัน อิล ชาวเกาหลีเหนือที่หนีมาเกาหลีใต้ ปัจจุบันเป็นนักวิจัยในกรุงโซลเล่าว่า รัฐบาลเปียงยางติดตั้งรั้วไฟฟ้าตามแนวพรมแดนมากขึ้น คนที่คิดหนีก็ติดสินบนเจ้าหน้าที่ยากขึ้นด้วยเพราะทางการเต็มใจให้เงินรางวัลก้อนใหญ่กว่าเงินสินบน

ในบรรดาผู้ที่หนีเข้ามาในแดนโสมขาว ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงปี 2562 อยู่ที่ราว 81% เพราะผู้ชายทุกคนล้วนมีงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำผู้หญิงจึงหลุดรอดสายตาทางการหนีออกมาง่ายกว่า

แต่เมื่อมาถึงแล้วก็ใช่ว่าจะราบรื่น หลายคนมีปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ ปีก่อนหญิงวัย 42 ปีคนหนึ่ง และบุตรชายวัย 6 ขวบถูกพบเป็นศพอยู่ในบ้าน ข้างๆ เป็นตู้เย็นว่างเปล่าและใบแจ้งหนี้จำนวนมาก ทั้งคู่เสียชีวิตมาแล้ว 2 เดือนกว่าจะมีคนพบศพ คาดว่าอดอาหารจนเสียชีวิตเพราะตู้เย็นไม่มีอะไรเลย

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) ที่ผ่านมา สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า มีคนพบชายเกาหลีเหนือวัย 62 ปี ที่มาอยู่ในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2561 เสียชีวิตบนภูเขาในเมืองแดกู ทิ้งจดหมายลาตายฉบับหนึ่งเอาไว้ บอกเล่าถึงชีวิตโดดเดี่ยวที่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากรัฐบาลโซล

“ชีวิตนี้อยู่ยากเหลือเกิน” ข้อความในจดหมายระบุ

โศกนาฏกรรมเหล่านี้ทำให้กระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ต้องประกาศมาตรการฉุกเฉินเมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) ช่วยเหลือชาวเกาหลีเหนือ 553 คน แต่ก็มีช่องโหว่อยู่บ้างตรงที่กระทรวงยังเข้าไม่ถึงผู้แปรพักตร์จำนวน 155 คน

กระทรวงรวมชาติแถลงว่า นับจากนี้กระทรวงจะตรวจสอบสถานะผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือปีละ 2 ครั้ง และเตรียมใช้ระบบให้ความช่วยเหลือที่ดียิ่งขึ้น เสริมความช่วยเหลือจากมูลนิธิโคเรียฮานะ ที่รัฐบาลโซลสนับสนุนเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวเกาหลีเหนือที่หนีเข้ามาโดยเฉพาะ