แล้วอะไรต่อ เมื่อโควิดใกล้จะจบ?

แล้วอะไรต่อ เมื่อโควิดใกล้จะจบ?

ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน กำลังทบทวนถึงชีวิตต่อไปหลังโควิด

ในกฎระเบียบต่างๆ ที่บังคับใช้ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในช่วงที่ผ่านมา ที่ตำรวจที่นั่นพบว่ายุ่งยากที่สุด น่าจะเป็นการห้ามคนเล่นเซิร์ฟ

ในบางครั้งเจ้าหน้าที่ถึงกับต้องลงไปไล่กันในน้ำ ซึ่งพวกนั้นก็มักจะปีนรั้วหนีหรือไต่เขาลงมาเพื่อที่จะเล่นคลื่น

แต่เมื่อทั้งสองประเทศเริ่มควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้ กฏระเบียบอย่างการห้ามเล่นเซิร์ฟก็เริ่มผ่อนปรนลง

ในนิวซีแลนด์ที่มีประชากร 5 ล้านคน ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่อยู่ในเลขหลักเดียวมาเกือบทั้งอาทิตย์ ออสเตรเลียเองก็มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 7 รายเมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวทำให้ทั้งสองประเทศอยู่ในกลุ่มที่สามารถจัดการไวรัสได้ ร่วมกับประเทศอย่างเกาหลีใต้และไต้หวัน

จริงๆ ออสเตรเลียเริ่มเปิดบางหาดที่คนนิยมบ้างแล้วสำหรับให้เล่นเซิร์ฟกับว่ายน้ำ และอีกไม่นานก็จะเปิดกิจการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำฟัน การผ่าตัด และอื่นๆ

ในเกาหลีใต้จะเริ่มเปิดการท่องเที่ยวในประเทศแม้จะมีบางพื้นที่ถึงกับตัดดอกทิวลิปในทุ่งทิ้งเพื่อไม่ให้คนมาดู ไต้หวัน ยิ่งชัด เพราะไม่เคยปิดโรงเรียน ร้านอาหาร หรือบาร์

ในทั้ง 4 ประเทศ ต่างก็ตระหนักว่าชีวิตยังไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม พวกเขาไม่เคยลดการ์ดลง และเจ้าหน้าที่ต่างก็ออกมาเตือนคนว่าอาจเจอไวรัสระบาดอีกได้ในหน้าหนาว

เพื่อจะป้องกันไม่ให้เกิดการระบาด เกาหลีใต้จึงดำเนินการตรวจและค้นหาเคสอย่างเข้มข้น ใช้กล้องวงจรปิด บันทึกการใช้เครดิตการ์ด และข้อมูลสถานที่ในโทรศัพท์ของประชาชน

ข้อมูลการเคลื่อนที่ของคนที่ติดเชื้อถูกกระจายให้ประชาชน ซึ่งก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวให้กับองค์กรที่ติดตาม

ในออสเตรเลีย ก็ประกาศว่าจะใช้มาตรการที่แข็งกร้าว อย่างการค้นหาเคสอย่างเข้มข้น และเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีอัตราการตรวจหาเชื้อที่สูง
ของโลก

นิวซีแลนด์ก็ยิ่งก้าวหน้าไปอีกขั้นเพราะตั้งเป้าที่จะ “กำจัด” (eliminate) เชื้อให้หมดไปจากประเทศ

ประโยชน์ของการกำจัดเชื้อได้ชัดเจน หากสามารถทำได้ รัฐบาลนิวซีแลนด์เชื่อว่า ในไม่ช้าก็จะสามารถให้คนหนุ่มสาวและผู้สูงวัยกลับไปทำงานได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีเคสพุ่งสูงขึ้นมาอีกครั้ง

“การฟื้นฟูหลังการกระทำดังกล่าวก็จะราบรื่นกว่าที่อื่นๆ” นักเศรษฐศาสตร์ ซามูบีล เอคับกล่าว

โรงเรียน ร้านค้า ร้านอาหาร สามารถที่จะเปิดดำเนินการได้โดยไม่ต้องเว้นระยะห่างเป็นพิเศษ การแข่งรักบี้ก็สามารถจัดได้ โดยที่คนก็เข้าไปดูได้
การจ้างงานหรือการลงทุนก็สามารถฟื้นได้หากความคิดที่ว่าไวรัสจะกลับมาอีกครั้งถูกขจัดไป
“สิ่งที่แย่ที่สุดที่เราทำกับประเทศได้ก็คือการปรับระดับของการล๊อคดาวน์ไปมา” นายกฯ นิวซีแลนด์ จาซินด้า อาร์เดริ์นกล่าว

แต่กระนั้น การค้นหาเคสติดเชื้อรายสุดท้ายในประเทศน่าจะเป็นอะไรที่ยากอยู่ “มันคือการหาเข็มในกองฟาง” อเยชา เวอร์รอล จากมหาวิทยาลัยโอทาโก้กล่าว การสุ่มตรวจหาเชื้อในกลุ่มอาชีพเสี่ยงไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่ จำเป็นที่จะต้องทำให้กว้างขึ้น การค้นหาผู้ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อจำเป็นต้องทำให้เข้มงวดรัดกุม

ตอนแรก รัฐบาลเจอปัญหาที่จะเข้าถึงคนกว่า 40% ของคนที่คิดว่าน่าจะติดเชื้อไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น การที่จะกำจัดเชื้อไวรัส ต้องดูแลพรมแดนอย่างเข้มงวด ในเวลานี้ ชาวต่างชาติเกือบทั้งหมดถูกห้ามไม่ให้เข้าประเทศ ในขณะที่ประชาชนที่ต้องการกลับนิวซีแลนด์ต้องถูกกักตัว 14 วัน

ท่าเรือต่างๆ ก็ต้องถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเช่นกัน ลูกเรือที่เข้ามาต้องไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือ และสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพียงสามคนที่ดูแลรับผิดชอบอยู่
และนิวซีแลนด์จะต้องปิดประเทศอีกนับปี

สตีเฟ่น จอยซ์ อดีตรัฐมนตรีการคลังกล่าวว่า การกำจัดไวรัสยากที่จะเป็นไปได้
เบรนเดน เมอร์ฟี่ ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของรัฐบาลกล่าวว่า แม้การกำจัดไวรัสจะเป็นเรื่องที่ทุกคนปรารถนา แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่น่าคลางแคลงใจว่าจะเป็นไปได้ เมื่อนึกถึงว่าต้องควบคุมพรมแดนขนาดไหน

หรือแม้การกำจัดไวรัสจะสำเร็จ อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของนิวซีแลนด์ก็ไม่สามารถหวังได้ว่าจะกลับมาเหมือนเดิม การหยุดการท่องเที่ยวรับชาวต่างชาติกระทบต่อ GDP ถึง 5% และคนอีกเป็นแสนที่ต้องตกงาน

นิวซีแลนด์และออสเตรเลียขึ้นชื่อเรื่องแบคแพคเกอร์และแรงงานเก็บผลไม้ที่เดินทางเข้าประเทศ เมื่อพรมแดนปิด ฟาร์มองุ่นและสวนผลไม้เหล่านี้ก็กระทบไปด้วย

ไมค์ แชปแมน จากสมาคมพืชสวน แสดงความกังวลว่าจะสามารถชักจูงคนในเมืองมาทำอาชีพนี้แทนได้หรือไม่
ในขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกก็หาไฟล์ตส่งของออกลำบาก ก่อนโรคระบาด กว่า80%ของการส่งออกพึ่งพาเครื่องบินผู้โดยสาร แต่แอร์นิวซีแลนด์ได้งดเที่ยวบินลงถึงกว่า 95% เมื่อมีการระบาด

ก่อนหน้านี้ นายกฯ อาร์เดริ์น ได้ประกาศขยายการล๊อคดาวน์ไปอีก 5 วันเพื่อพยายามกำจัดเชื้อ แม้มีราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มอีกนิด แต่เธอกล่าวว่า มันให้ผลคุ้มค่ากว่าในระยะยาว

แต่สำหรับประเทศอื่นๆ พวกเขาจัดการกับการควบคุมพรมแดนต่างออกไป ที่เกาหลีใต้ ยังคงรับชาวต่างชาติ แต่ต้องมีการกักตัว 14วัน มีบ้างบางคนที่ไม่ต้องถูกกักกันตัวคือ กลุ่มนักธุรกิจที่มีทริปเดินทางสั้นๆ พวกเขาจะถูกตรวจที่สนามบิน และถ้ามีผลเป็นลบ พวกเขาสามารถเดินทางในประเทศได้ทั่ว แต่ต้องตอบรับหากถูกเรียกโดยจ้าหน้าที่หรือผ่านแอพพลิเคชั่น ที่ไต้หวัน ก็รับชาวต่างชาติเหมือนกันแต่ต้องตามกฏการกักกันตัว

แผนในการกำจัดไวรัสของนิวซีแลนด์ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากสาธารณะ โพลเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาพบว่า 84%ของชาวนิวซีแลนด์ยอมรับการทำงานของรัฐบาล มีการหวังไปถึงว่า ประเทศอื่นจะร่วมความพยายามของประเทศในการเป็นเขตปลอดไวรัสนี้

รองนายกรัฐมนตรี วินสตัน ปีเตอร์ ยกตัวอย่าง “บอลลูนเชื่อมต่อแห่งทาสมัน” เมื่อออสเตรเลียและนิวซีแลนด์สามารถควบคุมไวรัสได้ และความคิดนี้ยังต่อไปถึงประเทศอื่นๆในเอเซีแปซิฟิก หากมันจะไม่แตกไปซะก่อน

ภาพ/ คนกลับมาเล่นเซ์ริฟแบบมีระยะห่างที่หาดบอนดี ออสเตรเลีย/ AFP