น้ำมันคลังสำรองเพิ่มน้อยกว่าคาด หนุนราคาเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้น
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธ (29เม.ย.) ปรับตัวขึ้นเกือบ 3 ดอลลาร์ หลังข้อมูลรัฐบาลสหรัฐเผยให้เห็นคลังปิโตรเลียมสำรองเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ขณะที่กำลังผลิตภายในประเทศลดลงเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 15.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 22.54 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 14 สัปดาห์ แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 9.8 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเกือบ 10 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 5.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ นักลงทุนมีความหวังว่าสหรัฐจะเปิดเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังมีความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19 โดยบริษัทกิเลียด ไซอึนส์ ( Gilead Sciences) แถลงวันนี้ว่า บริษัทได้รับข้อมูลที่น่าพึงพอใจในการใช้ยา remdesivir ซึ่งเป็นยาแอนตี้ไวรัสของบริษัท ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ผลการศึกษาการใช้ยา remdesivir ซึ่งทางบริษัทดำเนินการร่วมกับสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ มีผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายในเบื้องต้น ผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีอาการดีขึ้น หลังได้รับยา remdesivir
ด้านบริษัทมูดี้ส์ คาดว่าราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสจะมีราคาเฉลี่ย 30 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะมีราคาเฉลี่ย 35 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และ 45 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า