'จีน' โต้ 'สหรัฐ' ในสมรภูมิโควิดควรฟังผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 'นักการเมือง'
รองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน โต้กรณีกล่าวหาจีนปกปิดข้อมูลโควิด-19 ชี้ ทั่วโลกควรฟังผู้เชี่ยวชาญมากกว่านักการเมือง
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เล่อ อวี้เฉิง รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ของสหรัฐ โดยได้ตอบข้อสงสัยจากสังคมภายนอกที่กล่าวอ้างว่าจีนปกปิดข้อมูลการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) พร้อมย้ำทุกประเทศ ควรฟังผู้เชี่ยวชาญมากกว่านักการเมือง พร้อมระบุ จีนไม่ใช่ศัตรูหากคือมิตรของสหรัฐฯในการต่อสู้กับโควิด-19
เล่อกล่าวว่าเบื้องหลังข้อมูลตัวเลขต่างๆ ของจีน ล้วนเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง จึงไม่อาจปกปิดได้ไม่ว่าทางใดก็ตาม ในทางตรงกันข้าม มีบางประเทศที่ระบุว่าโรคโควิด-19 เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ การทำเช่นนี้ต่างหากที่เป็นการปกปิดที่แท้จริง
เล่อ กล่าวย้ำว่าปัจจุบัน จีนกำลังกลับมาเริ่มต้นทำงานและดำเนินการผลิตในทุกด้าน เมืองอู่ฮั่นยกเลิกปิดเมืองแล้ว หากตัวเลขไม่เป็นจริง จะกล้าทำเช่นนี้หรือ การปรับแก้ข้อมูลตัวเลขของเราสะท้อนให้เห็นถึงความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติสากลที่ยอมรับโดยทั่วไป และก่อนหน้านี้ไม่นานนิวยอร์กก็มีการปรับแก้ยอดผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นเช่นเดียวกัน
การตั้งข้อสงสัยต่อยอดผู้ป่วยยืนยันผลและยอดเสียชีวิตในประเทศจีนนั้นนับเป็นการกระทำที่ไม่เคารพต่อประชาชนชาวจีนกว่า 1.4 พันล้านคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อีกหลายล้านคน ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า จีนรับมือปัญหาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งสะท้อนถึง ประสบการณ์ของจีน มากกว่าจะเป็นการปกปิดของจีน
นอกจากนี้ เล่อยังระบุว่าจีนขอคัดค้านการสอบสวนระหว่างประเทศที่สันนิษฐานความผิดจีนไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงการสอบสวนที่หวังผลทางการเมืองและใส่ร้ายป้ายสีจีน
"จีนไม่ใช่ผู้ที่ทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 โรคระบาดเป็นภัยธรรมชาติ ซึ่งจีนเองก็เป็นเหยื่อของไวรัสเช่นกัน มิใช่ผู้ร่วมสมคบคิดในการก่อไวรัส การกล่าวโทษจีนและให้จีนรับผิดชอบในเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องชวนหัวทางการเมืองที่ไร้สาระโดยแท้" รองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกันควรตระหนักว่าภัยคุกคามที่แท้จริงต่อชีวิตของพวกเขาคือไวรัส หาใช่ประเทศจีน จีนคือมิตรสหายและหุ้นส่วนของสหรัฐ ในการต่อสู้กับโรคระบาด สหรัฐไม่ควรเห็นมิตรเป็นศัตรู ณ เวลานี้ ควรสมัครสมานในการต่อสู้กับโรคระบาดและเอาชนะอุปสรรคทั้งปวง แทนที่จะกล่าวหากัน และดึงการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมีเพียงการร่วมมือร่วมใจกันเท่านั้นที่จะนำเราไปสู่ชัยชนะร่วมกัน และสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้