'WHO' ยกย่องทีมวิจัยอังกฤษพบยา 'สเตอรอยด์' ลดอัตราเสียชีวิตผู้ป่วยโควิด
องค์การอนามัยโลก ยกย่องทีมนักวิจัยออกซ์ฟอร์ดในสหราชอาณาจักร ค้นพบยา “สเตอรอยด์” รักษาชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักได้ถึง 1 ใน 3
องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงในวันอังคาร (16 มิ.ย.) ยกย่องผลการศึกษาในสหราชอาณาจักรที่ค้นพบการใช้ยาเดกซาเมทาโซน (dexamethasone) สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 อาการสาหัสที่รักษาตัวในโรงพยาบาลได้ถึง 1 ใน 3 ว่า “การค้นพบครั้งสำคัญทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยปกป้องชีวิต”
“นี่คือข่าวที่ยอดเยี่ยม และผมขอแสดงความยินดีกับรัฐบาลสหราชอาณาจักร มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด โรงพยาบาลต่าง ๆ และบรรดาผู้ป่วยในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีส่วนร่วมกับการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยปกป้องชีวิตครั้งนี้” นายแพทย์ทีดรอส อัดฮานอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO กล่าว
ปัจจุบัน โลกยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือตัวยารักษาที่ผ่านการพิสูจน์รับรองว่าเห็นผลสำหรับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนทัวโลกไปแล้วกว่า 4.4 แสนคน จากผู้ติดเชื้อกว่า 8.2 ล้านคน นับตั้งแต่ที่มันอุบัติขึ้นครั้งแรกในจีนเมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2562
คำยกย่องของ WHO มีขึ้นหลังจากนักวิจัยในสหราชอาณาจักรชี้ว่า ยาเดกซาเมทาโซน ซึ่งเป็นยาสเตอรอยด์ราคาถูกที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย สามารถลดความเสี่ยงการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหนักได้
คณะนักวิจัยที่นำโดยทีมจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ ทำการทดลองใช้ยาเดกซาเมทาโซนกับผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักจำนวนกว่า 2,000 คน และผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า ในกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจนั้น ยาสเตอรอยด์ชนิดนี้ลดอัตราการเสียชีวิตได้ 1 ใน 3 ส่วนผู้ป่วยที่ต้องรับออกซิเจน ยานี้ลดอัตราการเสียชีวิตได้ 1 ใน 5
ทั้งนี้ เดกซาเมทาโซนเป็นยาต้านการอักเสบ โดยปกติใช้ในการรักษาอาการแพ้ต่าง ๆ รวมไปถึงใช้รักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และโรคหืด
ผลลัพธ์เบื้องต้นยังบ่งชี้ว่า ยาสเตอรอยด์ควรเป็นยามาตรฐานที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยขั้นรุนแรงโดยทันที และคณะนักวิจัยจะตีพิมพ์รายละเอียดผลการทดลองฉบับสมบูรณ์โดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ขณะที่ นายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักร เผยว่า รัฐบาลอนุมัติให้เริ่มใช้ยานี้รักษาผู้ป่วยในระบบบริการสาธารณสุขของรัฐโดยทันที และจำกัดการส่งออก และว่า รัฐบาลเริ่มกักตุนเดกซาเมทาโซนมาตั้งแต่เดือน มี.ค. หลังจากผลการทดลองเบื้องต้นแสดงให้เห็นสัญญาณเริ่มแรกของศักยภาพของยาชนิดนี้