'เมลเบิร์น' แห่ตุนของ รับมือ ‘ล็อคดาวน์’ รอบใหม่
นักช้อปในเมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย กว้านซื้อข้าวของในห้างสรรพสินค้ามากักตุน วานนี้ (8 ก.ค.) เตรียมตัวรับการล็อคดาวน์รอบใหม่เพื่อสกัดไวรัส
นักช้อปใน เมลเบิร์น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของออสเตรเลีย กว้านซื้อข้าวของในห้างสรรพสินค้ามากักตุน วานนี้ (8 ก.ค.) เตรียมตัวรับการล็อคดาวน์รอบใหม่เพื่อสกัดไวรัส คาดว่าการการปิดเมืองอีกครั้งจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายกว่าหนึ่งพันล้านดอลลลาร์ออสเตรเลียต่อสัปดาห์
ชาวเมืองเมลเบิร์นกว่า 5 ล้านคนต้องถูกล็อคดาวน์อีกครั้งเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันพุธ (8 ก.ค.) เนื่องจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายใหม่พุ่งสูงขึ้นมาก แต่ละวันมากกว่า 100 คน
ในช่วงเวลาหนึ่งวันที่ผ่านมา ทางการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 134 รายที่แม้จะดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายหมื่นคนของสหรัฐหรือบราซิล แต่เป็นเรื่องใหญ่ของออสเตรเลียที่อาจได้ประกาศความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ไปแล้ว
วูลเวิร์ธ เครือห้างสรรพสินค้ารายใหญ่สุดของประเทศ เผยว่า ห้างจำกัดการซื้อสินค้าจำเป็นไม่ว่าจะเป็นพาสต้า ผักและน้ำตาล หลังจากประชาชนทั่วรัฐวิกตอเรียแห่กันมาซื้อของที่นี่
ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ประชาชนในทุกหนทุกแห่งจะต้องปรับตัวให้ชินกับวิถี นิวนอร์มอล ที่มีการสั่งหรือเลิกมาตรการเข้มงวดสลับกันไปมา เมื่อพบการติดเชื้อใหม่จนการติดเชื้อลดลงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสุขภาพจากมาตรการดังกล่าวด้วย
จอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า การล็อคดาวน์เมืองเมลเบิร์น จะทำให้เศรษฐกิจเสียหายมากถึง 1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียต่อสัปดาห์ “ภาระหนักจะตกอยู่กับพวกธุรกิจต่างๆ”
ร้านอาหารและคาเฟ่ถูกจำกัดบริการได้แค่ซื้อกลับบ้าน ขณะที่ยิม ร้านเสริมสวย และโรงภาพยนตร์จำต้องปิดบริการอีกครั้งประขาชนจะถูกจำกัดให้อยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นออกไปทำงาน ออกกำลัง พบแพทย์ หรือซื้อของใช้ที่จำเป็น ซึ่งล้วนเป็นการโดดเดี่ยวทางสังคมที่เพิ่งจะยกเลิกไปไม่นานมานี้
ไมเคิล ไคริออส นักจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยฟลินเดอร์สเตือนว่า มาตรการเหล่านี้อาจทำให้รัฐวิกตอเรียเผชิญกับวิกฤติทางสุขภาพจิตได้
“เป็นไปได้มากที่ระบบการดูแลสุขภาพจิตตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง เพราะทรัพยากรที่จะรับมือกับผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตจากวิกฤติโควิดมีจำกัด” นักจิตวิทยากล่าว
นายกรัฐมนตรีวิกตอเรีย“แดเนียล แอนดรูว์ส” ยอมรับถึงความเสียหายที่มีต่อประชาชน 6.6 ล้านคน แต่จำเป็นต้องทำ
“นี่เป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เราต้องเผชิญ” แอนดรูว์สกล่าว
หน่วยงานสาธารณสุขเผยว่า ผู้ติดเชื้อหลายรายในเมลเบิร์นมาจากคลัสเตอร์โรงแรมที่ใช้กักตัวชาวเมืองผู้กลับมาจากต่างประเทศ ที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยฝ่าฝืนกฎมีเพศสัมพันธ์กับแขกที่มาเข้ากักตัว ทำให้ทางการต้องเปลี่ยนคู่สัญญาเอกชนใช้เจ้าหน้าที่เรือนจำมาทำหน้าที่แทนและสั่งสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลการติดเชื้อใหม่ในชุมชนที่เพิ่มขึ้น วานนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 11 คนเท่านั้นที่เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์เก่าได้
ตัั้งแต่วันเสาร์ (4 ก.ค.) ประชาชนเมลเบิร์นราว 3,000 คนถูกกักตัวอยู่แต่ในบ้าน ตามมาตรการรับมือโควิด-19 ที่เข้มงวดที่สุดของประเทศนับจนถึงขณะนี้ หลังจากพบคลัสเตอร์ใหม่ในที่พักตึกสูงแห่งหนึ่งที่ประชาชนอาศัยกันอยู่หนาแน่น เจ้าหน้าที่ระดมตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่พบผู้ติดเชื้อ 75 คน
ส่วนที่ชายแดนรัฐวิกตอเรียและนิวเซาท์เวลส์ วานนี้รถยนต์ไปเข้าแถวยาวเหยียดหลังจากนิวเซาท์เวลส์ประกาศปิดพรมแดนครั้งแรกตั้งแต่เกิดโรคระบาด เพื่อปกป้องตัวเองออกจากส่วนที่เหลือของประเทศ
การประกาศปิดพรมแดนอย่างปัจจุบันทันด่วนทำให้ประชาชนในเมืองชายแดนต่างเร่งขอใบอนุญาตข้ามแดนเพื่อทำงานหรือทำธุระจำเป็นขณะที่คนกำลังไปเที่ยวช่วงปิดเทอมต่างก็รีบกลับบ้าน
ทั้งนี้ ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสิ้น เกือบ 9,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 106 ราย