'ดาวโจนส์' ปิดร่วง 223 จุด แรงฉุดนักลงทุนเทขาย
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดแดนลบเป็นส่วนใหญ่ในวันจันทร์ (31 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนเทขายทำกำไรจากการดีดตัวขึ้นของตลาดก่อนหน้านี้และความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ลดลง 223.82 จุด (0.78%) ปิดที่ 28,430.05 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 7.70 จุด (0.22%) ปิดที่ 3,500.31 จุด ส่วนดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 79.82 จุด (0.68%) ปิดที่ 11,775.46 จุด
ทั้งนี้ ดาวโจนส์ปรับลดลงจากแรงแทขายของนักลงทุนที่หวังทำกำไรจากการดีดตัวขึ้นของตลาดก่อนหน้านี้ ส่วนเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติตลอดทั้งเดือน ส.ค. ปรับขึ้นคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี แม้ปิดลบในวันจันทร์ ขณะที่แนสแด็กดีดตัวได้แรงหนุนจากกลุ่มหุ้นที่กำลังบินสูงอย่างแอ๊ปเปิ้ล อิงค์ ที่ปิดบวกกว่า 3%
คำมั่นสัญญาของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ว่าจะอดทนกับอัตราเงินเฟ้อและคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไป รวมถึงความคืบหน้าของการผลิตวัคซีนและแนวทางรักษาโควิด-19 และการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ช่วยดันเอสแอนด์พี 500 และ แนสแด็ก ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลหลายรอบในเดือน ส.ค.
อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกฉุดจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังยอดผู้ติดเชื้อทั่วสหรัฐพุ่งเกิน 6 ล้านคนแล้วในวันอาทิตย์ (30 ส.ค.) ขณะที่หลายรัฐทางตะวันตกตอนกลาง รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
แนสแด็ก จบการซื้อขายของวันจันทร์ (31 ส.ค.) ด้วยการอยู่เหนือระดับสูงสุดตลอดกาลก่อนหน้าเกิดวิกฤติโควิด-19 เกือบ 20%
ข้อมูลจากดาวโจนส์ มาร์เก็ต ระบุว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 29.7% นับเป็นการดีดตัวใน 5 เดือนสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2552 ขณะที่เอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 35.4% นับเป็น 5 เดือนที่ดีที่สุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 2471 ส่วนแนสแด็กเพิ่มขึ้น 52.9% นับเป็น 5 เดือนที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 2543