'เอเชียแปซิฟิก' เริ่มผ่อนข้อห้ามเดินทาง

'เอเชียแปซิฟิก' เริ่มผ่อนข้อห้ามเดินทาง

เอเชียแปซิฟิกหลายประเทศค่อยๆ ผ่อนคลายระเบียบการเดินทางระหว่างประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลด

สมาคมสายการบินเอเชียแปซิฟิกรายงานว่า การปิดประเทศช่วงโควิด-19 ระบาดทำให้การเดินทางระหว่างประเทศในเอเชียเสียหายหนักมาก จำนวนผู้โดยสารลดลงถึง 97% ในเดือน ส.ค.

ล่าสุดแม้ประเทศยุโรปเพิ่มข้อกำหนดการเดินทางเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่เอเชียกลับสวนทางหันมาผ่อนคลายข้อจำกัดมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่การทำข้อตกลงทวิภาคีกันเสมอไป ตัวอย่างเช่นวันนี้ (12 ต.ค.) สิงคโปร์-อินโดนีเซียประกาศข้อตกลงอนุญาตให้ข้าราชการและภาคธุรกิจที่จำเป็นเดินทางไปมาหาสู่กันได้ โดยจำเป็นต้องยื่นคำร้องก่อนและตรวจเนื้อเยื่อหาโควิด-19 ทั้งก่อนและหลังเดินทาง

ส่วนชาวนิวซีแลนด์สามารถเดินทางไปบางพื้นที่ของออสเตรเลีย เช่น นิวเซาท์เวลส์ กรุงแคนเบอร์รา และนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีได้ตั้งแต่วันศุกร์นี้ (16 ต.ค.) เป็นต้นไปโดยไม่ต้องถูกกักตัว แต่เมื่อกลับไปจะต้องถูกกักตัวภายใต้การดูแลของรัฐเป็นเวลา 2 สัปดาห์ คนแรกเสียค่าใช้จ่าย 3100 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ สมาชิกในครอบครัวคนต่อๆ ไปต้องจ่ายเพิ่ม

นิวซีแลนด์ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 17 ต.ค. นี้ ประกาศว่า ไม่มีแผนเปิดพรมแดนกับออสเตรเลียในตอนนี้

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสันของออสเตรเลียเผยวานนี้ (11 ต.ค.) ว่ากำลังเจรจากับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และชาติในแปซิฟิกใต้เพื่อเปิดการเดินทางระหว่างกันหลังจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง

ที่ญี่ปุ่น หนังสือพิมพ์รายวันโยมิอุริ รายงานเมื่อวันเสาร์ (10 ต.ค.) ว่า ญี่ปุ่นและเวียดนามเตรียมอนุญาตให้มีการเดินทางทำธุรกิจระยะสั้นระหว่างกัน เร็วสุดภายในสิ้นเดือน ต.ค. หลังจากญี่ปุ่นทำข้อตกลงกับสิงคโปร์และเกาหลีใต้มาแล้ว

ทั้งยังมีแผนยกเลิกการห้ามเดินทางไป จีนและอีก 11 ประเทศ/ดินแดน เช่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เวียดนาม และมาเลเซียในเดือนหน้า แต่ยังคงแนะนำว่าไม่ควรเดินทางไปถ้าไม่จำเป็น

สำนักข่าวรอยเตอร์สอบถามจากนายเซจิ มาตาโน เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ได้ความว่า รัฐบาลยังไม่ตัดสินใจ แต่จะพิจารณาวิธีเปิดการเดินทางอีกครั้งให้ปลอดภัยป้องกันการติดเชื้อ