‘ยูเค’เพิ่มเป้ารับมือโลกร้อน

เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักรแถลงเป้าหมายยิ่งใหญ่ครั้งใหม่เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศให้ได้อย่างน้อย 68% ภายในปี 2573 โดยเทียบกับระดับการปล่อยก๊าซเมื่อปี 2533 

สหราชอาณาจักรเล็งเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินการอย่างเข้มข้นมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ (NDC) ภายใต้ความตกลงปารีสครั้งนี้จึงถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่สูงที่สุดของโลก และจะบังคับให้สหราชอาณาจักรต้องตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในบรรดาประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ทั้งหมดในโลกเท่าที่เคยมีมา

เป้าหมายใหม่นี้ถือเป็นการตั้งเป้าครั้งแรกด้วยตนเองของสหราชอาณาจักรหลังออกจากสหภาพยุโรป แสดงให้เห็นความตั้งใจของสหราชอาณาจักรในการก้าวเป็นผู้นำโลกในด้านการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

ทั้งนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสหราชอาณาจักรได้ตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้วมากกว่าประเทศพัฒนาใกล้เคียงกันอื่น ๆ นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ประเทศแรกของโลกที่ผ่านกฎหมายกำหนดเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

การประกาศครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่สหราชอาณาจักรจะร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Ambition Summit ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคมนี้ ตรงกับวาระครบรอบ 5 ปีความตกลงปารีสซึ่งเป็นความตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในด้านการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การประชุมดังกล่าวจะเรียกร้องให้ทุกประเทศทั่วโลกส่งแผนการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ หรือที่เรียกว่า NDC (Nationally Determined Contribution) หรือแผนอื่น ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่ที่เข้มข้นกว่าเดิม เพื่อเตรียมตัวสู่การประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 หรือ COP26 ซึ่งสหราชอาณาจักรจะเป็นเจ้าภาพ ณ เมืองกลาสโกว์ในปีหน้า