'ไบเดน' เล็งคว่ำบาตรต่อ 'อิหร่าน' หากไม่หยุดเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม

'ไบเดน' เล็งคว่ำบาตรต่อ 'อิหร่าน' หากไม่หยุดเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม

"โจ ไบเดน" ลั่นสหรัฐจะไม่หยุดคว่ำบาตร "อิหร่าน" 'หากไม่หยุดเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ในปริมาณที่สูงกว่าก่อนทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับบรรดาประเทศมหาอำนาจตะวันตกเมื่อปี 58

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐจะไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน หากอิหร่านไม่หยุดการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมก่อน โดยการเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CBS News

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสหรัฐจะยกเลิกการคว่ำบาตรก่อนเพื่อให้อิหร่านกลับเข้าสู่การเจรจาหรือไม่ ปธร.ไบเดนตอบว่า สหรัฐจะไม่ยกเลิกมาตรการดังกล่าวจนกว่าอิหร่านจะหยุดการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมก่อน

สำนักข่าวเพรส ทีวี ของอิหร่านรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายโมฮัมหมัด จาหวัด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านกำลังหมดความอดทนกับสัญญาณล่าสุดของรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐที่จะยังคงมาตรการคว่ำบาตรที่ผิดกฎหมายต่ออิหร่าน

ด้านนายแอนโธนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า สหรัฐจะกลับไปใช้ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA) เมื่ออิหร่านปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา

ทั้งนี้ อิหร่านและกลุ่ม P5+1 หรือ 5 ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN) ซึ่งได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน ร่วมกับเยอรมัน และสหภาพยุโรป ได้บรรลุข้อตกลง JCPOA ในปี 2558 ซึ่งทำให้อิหร่านได้รับอนุญาตให้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมภายในขอบเขตที่กำหนดภายใต้ข้อตกลงนี้

อย่างไรก็ดี ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่าน ประกาศว่า อิหร่านกำลังดำเนินการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในปริมาณที่สูงกว่าก่อนทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับบรรดาประเทศมหาอำนาจตะวันตกเมื่อปี 2558

มีรายงานว่า อิหร่านค่อยๆเพิ่มปริมาณการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการละเมิดคำมั่นสัญญาที่อิหร่านให้ไว้ภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ 2558 เพื่อตอบโต้การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศนำสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว และกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง