'พายุฤดูหนาว' ตัวการซ้ำเติมอุตสาหกรรมสหรัฐ

ขณะที่สหรัฐกำลังรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 แม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะเริ่มดีขึ้น เพราะมีผู้ติดเชื้อลดลงแต่หลายรัฐในสหรัฐก็ต้องเจอกับหายนะภัยจากธรรมชาติ พายุหิมะที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตขั้นต่ำ 21 ราย ทำให้ชาวเท็กซัสหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้และยังทำให้เกิดพายุทอร์นาโดหลายลูกพัดถล่มพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐในวันอังคาร(16ก.พ.)ตามเวลาสหรัฐ

สภาพอากาศหนาวเย็นจัดแผ่ปกคลุมหลายรัฐในสหรัฐทั้งรัฐมิชิแกน รัฐมิสซูรี รัฐโอไฮโอ รัฐอินเดียนา รัฐเคนตักกี รัฐมิสซิสซิปปี และรัฐเท็กซัส ทำให้ต้องปิดศูนย์ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19และทำให้การจัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19สะดุด และคาดการณ์ว่าสถานการณ์ปั่นป่วนจากพายุหิมะจะไม่บรรเทาลงจนกว่าจะถึงปลายสัปดาห์นี้

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐเตือนว่า สภาพอากาศที่ผิดปกตินี้อาจทำให้สภาพอากาศที่หนาวเย็นคล้ายขั้วโลกปกคลุมทั่วประเทศจนถึงวันศุกร์นี้ (19 ก.พ.) ทั้งที่ปกติแล้วสภาพอากาศหนาวเย็นแบบนี้จะเกิดขึ้นเหนือพรมแดนทางตอนบนของสหรัฐและแคนาดา

ส่วนหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของสหรัฐ รวมถึงเท็กซัสไม่มีสภาพอากาศหนาวเย็นเกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ในปีนี้มีพายุหิมะเกิดขึ้นทำให้กังหันลมขนาดยักษ์ที่กระจายอยู่ทั่วฝั่งตะวันตกของรัฐเกิดการขัดข้อง ระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าล้มเหลวหลายครั้ง จนกระทั่งเกิดไฟดับทั่วทั้งรัฐ

นอกจากพายุหิมะจะทำให้คนตายและทำให้ผู้คนจำนวนมากเดือดร้อนเพราะไม่มีไฟ้าใช้ ยังทำให้อุตสาหกรรมพลังงานสหรัฐปั่นป่วนด้วยเช่นกัน เพราะหลายรัฐที่เจอพายุหิมะเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของสหรัฐ ล่าสุด เทรดเดอร์และบริษัทพลังงานในสหรัฐ คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐจะลดลงกว่า 2 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรอบ 30 ปีส่งผลกระทบต่อรัฐหลายแห่งที่เป็นแหล่งผลิตน้ำมัน

ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้สูงกว่าที่เทรดเดอร์ได้คาดการณ์ไว้เมื่อวันจันทร์(15ก.พ.)ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.5-1.7 ล้านบาร์เรล/วัน

หลังจากพายุหิมะพัดเข้าหลายรัฐดังที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทพลังงานหลายแห่งได้สั่งยุติการผลิตที่โรงกลั่นน้ำมันในรัฐเท็กซัสเป็นการชั่วคราว และได้จำกัดการดำเนินงานในส่วนของท่อส่งก๊าซธรรมชาติด้วย เนื่องจากรัฐเท็กซัสกำลังเผชิญกับสภาพอากาศเย็นจัดจนถึงจุดเยือกแข็ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จึงประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อเปิดโอกาสให้รัฐเท็กซัสได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง โดยปัจจุบัน รัฐเท็กซัสผลิตน้ำมันได้วันละประมาณ 4.6 ล้านบาร์เรล และเป็นรัฐที่มีโรงกลั่นน้ำมันใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

บริษัทโมทิวา เอ็นเตอร์ไพรซ์ ระบุว่า บริษัทได้สั่งปิดโรงงานในเมืองพอร์ตอาร์เทอร์ของรัฐเท็กซัส ซึ่งในโรงงานนี้สามารถกลั่นน้ำมันได้ 607,000 บาร์เรลต่อวัน ถือเป็นโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ

ส่วนบริษัทเอ็กซอน โมบิล ก็สั่งปิดโรงกลั่นที่ผลิตน้ำมันได้วันละ 369,024 บาร์เรลที่เมืองโบมอนต์ และโรงกลั่นที่ผลิตได้วันละ 560,500 บาร์เรลที่เมืองเบย์ทาวน์ รวมถึงโรงงานเคมีที่อยู่ติดกันในรัฐเท็กซัส

นอกจากโรงกลั่นน้ำมันแล้ว บริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่ง อย่าง เจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม), ฟอร์ด มอเตอร์ และโตโยต้า มอเตอร์ ก็ตัดสินใจระงับการผลิตในโรงงานที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคกลางของสหรัฐ เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายในฤดูหนาวที่ทำให้เกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องและปัญหาอื่นๆตามมา

จีเอ็มระงับการผลิตในโรงงานที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัสในช่วงสองกะแรก หลังจากที่ระงับการผลิตในโรงงานไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องและพนักงานหลายคนไม่สามารถเดินทางมาทำงานที่โรงงานได้เนื่องจากติดพายุหิมะ

โรงงานดังกล่าวผลิตรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) ขนาดใหญ่ ซึ่งทำกำไรให้จีเอ็มมากมาย เช่น รถยนต์เชฟโรเล็ต ทาโฮ และคาดิลแล็ค เอสคาเลด แต่จีเอ็มก็ให้คำมั่นว่าจะรักษากำลังการผลิตของโรงงานผลิตรถยนต์เอสยูวีและรถปิคอัพแห่งอื่นๆ แม้ทางบริษัทกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการผลิต

ด้านฟอร์ด มอเตอร์ ตัดสินใจปิดโรงงานในรัฐมิชิแกน รัฐมิสซูรี และรัฐโอไฮโอ รวมไปถึงโรงงานประกอบรถยนต์แห่งหนึ่งในเม็กซิโกแล้ว โดยมีสาเหตุมาจากพายุหิมะเช่นกัน

ขณะที่โฆษกของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ บอกว่า ปัญหาสภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้บริษัทต้องสั่งพักการผลิตในโรงงานที่ในรัฐมิชิแกน รัฐมิสซูรี และรัฐโอไฮโอ รัฐอินเดียนา รัฐเคนตักกี รัฐมิสซิสซิปปี และรัฐเท็กซัสในช่วงสองกะแรก และพักการผลิตในโรงงานที่รัฐเวสต์เวอร์จิเนียในช่วงกะแรก

นอกจากนี้ บริษัทโฟล์คสวาเกน เอจี ระงับการผลิตบางส่วนเป็นการชั่วคราวในโรงงานที่เมืองชัททานูกา รัฐเทนเนสซี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศย่ำแย่ และปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน

ส่วนซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ถูกบังคับให้ต้องยุติการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่โรงงานผลิตในเมืองออสติน รัฐเท็กซัสเป็นการชั่วคราว เพราะปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าในรัฐเท็กซัส เนื่องจากเจออิทธิพลของพายุหิมะ โดยซัมซุง ซึ่งจัดหาเซมิคอนดักเตอร์ให้ลูกค้าหลายราย รวมถึง บริษัทอินเทล กำลังขยายโรงงานในวงเงิน 1,700ล้านดอลลาร์เพื่อรับมือกับความต้องการเซมิคอนดักเตอร์จากลูกค้าอเมริกันที่เพิ่มขึ้น

“เพราะปัญหาไฟดับเมื่อไม่นานมานี้ในเท็กซัส ซัมซุง ออสติน เซมิคอนดักเตอร์ทะยอยยุติการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ตั้งแต่วันที่ 16ก.พ.ตามคำสั่งของสำนักงานด้านพลังงานของเมืองออสติน และจะกลับมาเดินสายการผลิตตามปกติอีกครั้งหลังจากทางการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้โรงงาน”แถลงการณ์จากซัมซุง ระบุ