ผู้นำธุรกิจอเมริกัน-เอเชียตั้งกองทุนต้านภัยเกลียดชัง

ผู้นำธุรกิจอเมริกัน-เอเชียตั้งกองทุนต้านภัยเกลียดชัง

ผู้นำธุรกิจสัญชาติอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐผนึกกำลังตั้งกองทุนมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก(เอเอพีไอ) รวมทั้งเตรียมช่วยชุมชนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่เกิดเหตุอาชญากรรมจากความเกลียดชัง

มูลนิธิชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเป็นองค์กรที่จะจัดสรรเงินทุนเบื้องต้นจำนวน 125 ล้านดอลลาร์ภายในเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนด้านมนุษยธรรมแก่สมาชิกชุมชนเอเอพีไอที่มีจุดประสงค์หลักในการดำเนินโครงการ3 ด้านคือ ต่อต้านความเกลียดชัง โครงการด้านการศึกษา และงานวิจัย และคณะกรรมการบริหารมูลนิธิแห่งนี้ ประกอบด้วยหลี่ ลู่ ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันหิมาลายา แคปิตอล ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิ และกรรมการอื่นๆ รวมถึง เจอร์รี หยาง ผู้ร่วมก่อตั้งยาฮู และ โจเซฟ ไช่ ผู้ร่วมก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง

มูลนิธิชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย เปิดเผยว่า งบประมาณที่เหลือจะมาจากการสนับสนุนของบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง โคคา-โคลา วอลมาร์ท อิงค์ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ อเมซอน ดอท คอม อิงค์ และธนาคารยูบีเอส กรุ๊ป รวมทั้งสมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติ(เอ็นบีเอ)ซึ่งในการเปิดตัวโครงการนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคาร (4พ.ค.)ตามเวลาสหรัฐ มีอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ร่วมงาน

การจัดตั้งโครงการนี้ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนชุมชนเอเอพีไอ ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในสหรัฐด้วยจำนวนประชากรประมาณ 23 ล้านคน โดยจะดำเนินการต่างๆ เพื่อต่อต้านความรุนแรงที่เกิดจากความเกลียดชัง จัดทำแผนการเรียนการสอนในโรงเรียนที่จะสอดคล้องกับความเป็นมา และความสำคัญของชุมชนเอเอพีไอในสังคมสหรัฐ รวมทั้งสนับสนุนด้านการเงินให้แก่วงการศิลปะ วงการภาพยนตร์ วงการสื่อต่างๆ และลงทุนในงานค้นคว้าวิจัยเพื่อช่วยให้รัฐบาลดำเนินนโยบายที่เหมาะสมขึ้นแก่ชุมชมนี้

การเคลื่อนไหวของผู้นำธุรกิจอเมริกันเชื้อสายเอเชียครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายต่อต้านอาชญากรรมอันเกิดจากความเกลียดชัง โดยร่างกฎหมายนี้ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน และร่างกฎหมายนี้จะถูกนำมาพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในโอกาสต่อไป

"แนนซี เพโลซี" ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มั่นใจว่าพรรคเดโมแครตมีเสียงสนับสนุนในมือมากพอที่จะผ่านร่างกฎหมายนี้ในสภาล่าง ก่อนที่จะเสนอให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามรับรองเป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการในเวลาไม่เกินหนึ่งเดือนข้างหน้า

กระแสความเกลียดชังชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ครอบคลุมถึงชาวเอเชีย ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน โดยเฉพาะเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐในขณะนั้น พยายามโบ้ยความผิดให้รัฐบาลจีนและผลพวงจากกระแสความเกลียดชังที่สูงขึ้นในสมัยทรัมป์ ทำให้เกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงต่อชาวเอเชียนับครั้งไม่ถ้วน รวมถึง เหตุการณ์ที่ชาวไทยอย่าง“วิชา รัตนภักดี”ถูกทำร้ายที่เมืองซานฟรานซิสโกจนเสียชีวิตในเวลาต่อมาจากอาการเลือดออกในสมอง จนมาถึงเหตุกราดยิงหญิงเชื้อสายเอเชียในแอตแลนตา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย

หลังเกิดเหตุกราดยิงในแอตแลนตา "เมซี ฮิโรโนะ" วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตเชื้อสายญี่ปุ่น ร่วมกับ“แทมมี ดักเวิร์ธ” วุฒิสมาชิกเชื้อสายไทย สามารถผลักดันร่างกฎหมายต่อต้านอาชญากรรมอันเกิดจากความเกลียดชังผ่านการรับรองของสภาสูงได้สำเร็จ โดยร่างกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาจัดการคดีอาชญากรรมอันเกิดจากความเกลียดชัง เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว พร้อมทั้งตั้งสายด่วนให้ประชาชนโทรฯเข้ามารายงานการเกิดอาชญากรรมในรูปแบบนี้ได้โดยตรง

ส่วนรัฐบาลกลางก็จัดสรรเงินงบประมาณให้รัฐบาลมลรัฐจัดตั้งหน่วยงานในลักษณะเดียวกัน พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณเพื่อฝึกอบรมเพื่อเพิ่มความพร้อมแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้สามารถรับมือกับคดีอาชญากรรมในลักษณะนี้ได้ รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปช่วยแจ้งเบาะแสแก่ตำรวจหากพบเห็นเหตุรุนแรง หรือคดีในลักษณะนี้

ทั้งนี้ อาชญากรรมจากความเกลียดชังชาวเอเชียในสหรัฐทะยานสูงสุดในมหานครนิวยอร์ก ด้วยตัวเลขการเกิดเหตุทั้งหมด 28 ครั้ง สูงกว่าสถิติของเมื่อปี2562 ถึงกว่า 9 เท่า ขณะที่เมืองใหญ่อื่นๆ อีก 4 แห่ง คือฟิลาเดิลเฟีย คลีฟแลนด์ ซานโฮเซ่ และลอส แองเจลิส มีสถิติเพิ่มขึ้นกว่า 100% ในปีที่แล้ว