'บ.พลังงานโลก'เร่งตรวจสอบแผนลดปล่อยคาร์บอนฯ

เดือนพ.ค.เป็นเดือนที่มีความสำคัญสำหรับบริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติชั้นนำของโลก เนื่องจากบริษัทพลังงานหลายแห่งจัดประชุมประจำปีผู้ถือหุ้น จึงถือเป็นโอกาสดีที่บริษัทพลังงานเหล่านี้ต้องตรวจสอบตัวเองอย่างจริงจังว่า ดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือปรับระดับเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเพื่อลดโลกร้อนตามที่ความตกลงกรุงปารีสกำหนดไว้หรือไม่

ในความเป็นจริงทุกวันนี้ ไม่มีบริษัทพลังงานใดเลยที่ดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์หรือปรับเพิ่มระดับการลงทุนเพื่อสนับสนุนเป้าหมายนี้ของความตกลงกรุงปารีส จะมีก็แต่เชลล์ ที่ถือเป็นบริษัทพลังงานรายแรกในอุตสาหกรรมที่จะเริ่มเผยแผนปล่อยก๊าซคาร์บอนฯเหลือศูนย์เปอร์เซนต์ให้บรรดาผู้ถือหุ้นได้รับทราบในวันประชุมประจำปีผู้ถือหุ้น 18 พ.ค.ที่จะถึงนี้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีกระแสกดดันอย่างมากให้บรรดาบริษัทที่ถือเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่สุดของโลกกำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวให้สอดคล้องกับความตกลงกรุงปารีสที่สมาชิกองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) 196 ประเทศบรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ร่วมกันเพื่อยับยั้งไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงเกิน 2 องศาเซลเซียส หรือหากทำได้ จะพยายามควบคุมอุณหภูมิโลกให้สูงไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเดือนธ.ค.ปี 2558 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

นับตั้งแต่นั้นมา ประเทศที่ให้สัตยาบันเป็นภาคีความตกลงปารีสต้องนำเสนอแผนงานต่อยูเอ็นเพื่อชี้แจงว่าแต่ละประเทศจะดำเนินมาตรการอย่างไรเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นปัจจัยก่อปัญหาโลกร้อน

แต่ความตกลงปารีสไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย และยึดหลักคำสัญญาภายใต้การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contributions )หรือเอ็นดีเอสที่แต่ละประเทศเสนอต่อยูเอ็น

อีควินอร์ (Equinor)บริษัทพลังงานของนอร์เวย์ และโคโนโคฟิลิปส์ บริษัทพลังงานสัญชาติอเมริกัน จัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันอังคาร (11พ.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ส่วนการประชุมผู้ถือหุ้นของบีพี บริษัทพลังงานสัญชาติอังกฤษและฟิลิปส์ 66 บริษัทกลั่นน้ำมันสัญชาติอเมริกัน ประชุมผู้ถือหุ้นในวันพุธ(12พ.ค.) และเชฟรอน บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 26 พ.ค.

ในส่วนของบริษัทโรยัล ดัทช์ เชลล์ บริษัทพลังงานอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ ที่จะเป็นบริษัทแรกที่เผยแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในที่ประชุมประจำปีผู้ถือหุ้นแม้แผนที่จะเปิดเผย ไม่ได้มีข้อผูกมัดใดๆแต่ก็ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากอุตสาหกรรมพลังงานทั้งในประเทศและต่างประเทศท่ามกลางความวิตกกังวลว่าอุตสาหกรรมพลังงานยังคงพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิลอย่างเหนียวแน่น

อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นปีมานี้ เชลล์ได้เผยแพร่กลยุทธการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของบริษัท ด้วยการตั้งเป้าปล่อยก๊าซคาร์บอนฯให้เป็นศูนย์เปอร์เซนต์ ภายในปี 2593 และก่อนจะถึงปี2593 บริษัทตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯสุทธิให้ได้ระหว่าง 6% -8% ภายในปี 2566 เมื่อเทียบกับระดับของปี 2559 โดยเป็นการกำหนดเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯให้ได้ 20% ภายในปี 2566 ลดให้ได้ 45% ภายในปี 2578 และลดให้ได้ 100% ภายในปี 2593

นายเบน ฟาน เบอร์เดน ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเชลล์ กล่าวว่า “ยุทธศาสตร์หลักของบริษัทคือการเดินหน้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯและส่งมอบคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้นและลูกค้า ตลอดจนสังคมโดยรวม ทั้งยังเดินหน้ามอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด"

ผู้บริหารเชลล์ ระบุด้วยว่า นับจากวันนี้เป็นต้นไป เชลล์จะผสานกลยุทธ์ สัดส่วนธุรกิจ และความมุ่งมั่นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ Powering Progress ที่ประกอบไปด้วย การสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น การชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์ การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และการเคารพต่อธรรมชาติ

แถลงการณ์จากเชลล์ ยังระบุว่า บริษัทจะพยายามเข้าถึงการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นอีกปีละ 25 ล้านตัน ภายในปี 2578 และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับ 3 โครงการด้านการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้แก่ โครงการเควส( Quest) ในแคนาดา ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ โครงการนอร์ทเทิร์น ไลท์( Northern Lights) ในนอร์เวย์ ซึ่งผ่านการอนุมัติแล้ว และโครงการปอร์โธส( Porthos) ในเนเธอร์แลนด์ ที่บริษัทวางแผนไว้ ทั้ง 3 โครงการจะสามารถกักเก็บได้รวมกันถึง 4.5 ล้านตัน