บ.เหมืองขุด 'คริปโต' ในจีนปิดกิจการ หลังรัฐปราบปรามหนัก
บริษัทเหมืองขุดเงินคริปโตในจีน ปิดกิจการหลังรัฐประกาศปราบปรามหนัก
หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศว่าจะกวาดล้างการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ รวมทั้งควบคุมพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนเพื่อป้องกันมิให้ความเสี่ยงของปัจเจกบุคคลลุกลามไปสู่สังคมในวงกว้าง ส่งผลให้บริษัทผู้ให้บริการขุดเหรียญคริปโตในจีน เช่นบริษัทหัวปี้ มอลล์ (Huobi Mall) และบีทีซี ดอท ท็อป (BTC.TOP) ประกาศระงับการดำเนินงาน
บริษัทหัวปี้ มอลล์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสกุลเงินดิจิทัลหัวปี้ ระบุในแถลงการณ์ว่า "เราได้ตัดสินใจระงับธุรกิจที่อยู่ในการดูแลทั้งหมดของเรา ขณะเดียวกัน เรากำลังติดต่อผู้ให้บริการในต่างประเทศเพื่อปูทางสำหรับการส่งออกแท่นขุดเจาะในอนาคต"
ด้านบริษัทด้านบีทีซี ดอท ท็อป แหล่งขุดคริปโต ประกาศระงับธุรกิจ โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ
นายเจียง จั๋วเออร์ ผู้ก่อตั้งบีทีซี ดอท ท็อป กล่าวผ่านบล็อกในเว่ยป๋อว่า "ในอนาคตบีทีซี ดอท ท็อป จะดำเนินธุรกิจขุดคริปโตในอเมริกาเหนือเป็นหลัก และในระยะยาว แท่นขุดเจาะคริปโตของจีนเกือบทั้งหมดจะถูกขายไปต่างประเทศ เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนปราบปรามการขุดภายในประเทศ"
ทั้งนี้ นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และสภาแห่งรัฐของจีน ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า ทางการจีนจะเข้ากวาดล้างการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ รวมทั้งควบคุมพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนเพื่อป้องกันมิให้ความเสี่ยงของปัจเจกบุคคลลุกลามไปสู่สังคมในวงกว้าง
แถลงการณ์ระบุว่า การคุมเข้มบิทคอยน์มีความจำเป็นเพื่อป้องกันระบบการเงินของประเทศ
"การกวาดล้างอย่างรุนแรงต่อกิจกรรมด้านหลักทรัพย์ที่ผิดกฎหมาย และการลงโทษอย่างรุนแรงต่อกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่จำเป็นในการรักษาความมีเสถียรภาพในตลาดหุ้น, ตราสารหนี้ และปริวรรตเงินตรา" แถลงการณ์ระบุ
ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต ซึ่งรวมถึงการซื้อขาย, การชำระบัญชี และการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต เนื่องจากกังวลว่า ความผันผวนของสกุลเงินคริปโตจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินประชาชน และจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของจีน