นโยบาย'ลูกสามคน'ของจีนหนุนหุ้น'สุขภาพ-สินค้าเด็กอ่อน'
นโยบาย'ลูกสามคน'ของจีนหนุนหุ้น'สุขภาพ-สินค้าเด็กอ่อน' ขณะชาวเน็ตในเว่ยโป๋ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่านโยบายลูกคนที่สามของจีนไม่ช่วยเพิ่มการเกิดใหม่เพราะพ่อแม่ยุคใหม่แบกรับภาระเพิ่มขึ้น
หลังจากที่จีนประกาศนโยบายสนับสนุนให้ครอบครัวชาวจีนมีลูกสามคน เพื่อปรับปรุงโครงสร้างประชากร เสริมสร้างยุทธศาสตร์รับมือกับสังคมผู้สูงวัยที่กำลังเผชิญอยู่ และช่วยให้การจัดการทรัพยากรมนุษย์ดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังจากช่วงสิบปีที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวของประชากรจีนเป็นไปอย่างเชื่องช้าที่สุดนับจากทศวรรษที่ 1950 ส่วนอัตราการเกิดของทารกก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง
การประกาศนโยบายนี้ของรัฐบาลปักกิ่งทำให้ราคาหุ้นบริษัทนมผงสำหรับทารกและราคาหุ้นบริษัทผลิตสินค้าประเภทต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพ่อแม่พร้อมใจปรับตัวขึ่้นในทันทีในการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์เสิ่นเจิ้นเมื่อวันอังคาร(1มิ.ย.) รวมถึง ราคาหุ้นของบริษัทบีอิงเมท เบบี้ แอนด์ ไชลด์ ฟู้ด เปิดตลาดปรับตัวขึ้น 6.5% และช่วงปิดตลาดราคาอยู่ที่ 6.40 หยวน ปรับตัวขึ้น 8.1% จากเมื่อวันจันทร์(31พ.ค.)ที่มีการประกาศนโยบายนี้
บริษัทบีอิงเมท เบบี้ แอนด์ ไชลด์ ฟู้ด มีฐานดำเนินงานอยู่ในเมืองหังโจว เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตนมผงสำหรับทารกรายใหญ่สุดของจีนและใช้วัตถุดิบจากประเทศต่างๆอาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และไอร์แลนด์
ส่วนราคาหุ้นของ“ยี่หัว เฮลธ์ เมดิคัล” ผู้ดำเนินการด้านโรงพยาบาล ผลิตอุปกรณ์การแพทย์และที่พักอาศัยสำหรับผู้เกษียณอายุจากงานมีฐานดำเนินการอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ปรับตัวขึ้น 9.8% ปิดที่ราคา 6.15 หยวน เมื่อวันอังคารหลังจากเมื่อวันจันทร์ปรับตัวขึ้นมากที่สุด 10%
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ซึ่งเป็นประธานการประชุมคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันจันทร์ กล่าวว่า รัฐบาลจีนจะสนับสนุนนโยบายให้ประชาชนชาวจีนมีลูกสามคน ซึ่งรวมถึง ลดค่าเล่าเรียนแก่บุตร ช่วยเหลือด้านภาษีและบ้านที่อยู่อาศัย ให้หลักประกันสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายแก่ผู้หญิงทำงาน จำกัดค่าสินสอดทองหมั้นที่สูงมาก ตลอดจนสนับสนุนการศึกษาเกี่ยวกับการแต่งงานและความรักของประชากรกลุ่มที่เป็นเยาวชน
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาอัตราขยายตัวประชากรจีนเป็นไปอย่างเชื่องช้าที่สุด ขณะที่อัตราเกิดของทารกมีแต่จะลดลงเรื่อยๆ ล่าสุด เมื่อเดือนที่แล้ว สำนักงานสัมมะโนประชากรแห่งชาติของจีนระบุว่าการเติบโตของจำนวนประชากรจีนรายปีในปี 2563 ร่วงลงเหลือ 0.53% ในช่วง10ปีที่ผ่านมา เทียบกับ 0.57% ในการสำรวจสัมมะโนประชากรปี 2553
ตัวเลขที่ลดลงนี้สะท้อนถึงความล้มเหลวในการดำเนินนโยบายลูกสองคนของรัฐบาลจีนที่ประกาศใช้เมื่อปี 2559 ด้วยความหวังว่าจะชวยกระตุ้นให้มีอัตราเกิดใหม่ของประชากรมากขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าอัตราการเกิดใหม่ในปี 2563 ร่วงลง 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าเหลือ 12 ล้านคน
แต่บรรดานักท่องเน็ตชาวจีนจากเว่ยโป๋ มีความเห็นไปในทำนองเดียวกันว่า นโยบายสนับสนุนชาวจีนให้มีลูกสามคนของรัฐบาลจีนไม่น่าจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของอัตราประชากรมากนักเนื่องจากคู่สามีภริยาชาวจีนยุคใหม่แบกรับภาระเพิ่มขึ้นจึงมีเรื่องให้ต้องคิดหนักหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน และการแข่งขันในการทำงานที่เคร่งเครียด ทั้งยังมีปัญหาค่าเล่าเรียนที่สูงรวมอยู่ด้วย
ขณะที่ผลสำรวจออนไลน์จากสำนักข่าวซินหัว ระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 28,000 คนจาก 31,000 คน ยังไม่คิดเรื่องจะมีลูกคนที่สาม ขณะผู้ตอบบแบบสอบถามอีก 1,600 ระบุว่า ยินดีที่จะมีลูกคนที่สาม