ฉีดไฟเซอร์-แอสตร้าฯ โดสแรกยัง'เสี่ยงโควิดสายพันธุ์เดลต้า'
“แอนโธนี เฟาซี” เบอร์ 1 ทีมงานโควิดทำเนียบขาวเตือน ฉีดวัคซีนไฟเซอร์-แอสตร้าเซนเนก้าไปเพียงโดสเดียว ยังเสี่ยงติดโควิดสายพันธุ์เดลต้า
ตามที่นายแพทย์แอนโธนี เฟาซี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันอังคาร (8 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.617.2 หรือเรียกว่าสายพันธุ์เดลต้า (Delta) นั้น อาจกลายเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐ ขณะนี้ผู้ติดเชื้อในสหรัฐราว 6% จากทั้งหมดติดสายพันธุ์เดลต้า
นายแพทย์เฟาซีเตือนด้วยว่า คนที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้าไปเพียงโดสเดียว ดูจะเสี่ยงเป็นพิเศษกับโควิดสายพันธุ์เดลต้า
วัคซีนทั้งสองตัวมีประสิทธิภาพป้องกันโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมราว 50% สามสัปดาห์หลังจากฉีดโดสแรก แต่ป้องกันสายพันธุ์เดลต้าได้เพียง 33%เมื่อฉีดโดสสองแล้วสองสัปดาห์ ประสิทธิภาพของไฟเซอร์พุ่งขึ้นมาเป็น 88% และแอสตร้าเซนเนก้าเพิ่มเป็น 60%สะท้อนว่าประสิทธิภาพในการป้องกันลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม
ทั้งนี้ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าใช้กันกว้างขวางในยุโรปแต่ไม่ใช้ในสหรัฐ ตรงข้ามกับวัคซีนโมเดอร์นาที่นิยมใช้ในสหรัฐแต่ไม่ใช้ในสหราชอาณาจักร
ข้อมูลจากรัฐบาลอังกฤษระบุว่า ชาวอังกฤษอายุตั้งแต่ 18 ปี 77% หรือ 40 ล้านคนฉีดวัคซีนแล้ว 1 โดส ส่วนที่ฉีดแล้ว 2 โดสมีจำนวน 28 ล้านคน หรือ 54% ในสหรัฐก็เช่นเดียวกันผู้ใหญ่ 53% ฉีดวัคซีนครบแล้ว 64% ฉีดเข็มแรกไปแล้ว